เย็นดูพระอาทิตย์ตก / กลางคืนดูดาว / เช้าดูพระอาทิตย์ขึ้น สามคำนิยามสั้นๆสำหรับ “ดอยสะโง้”
ถ้าให้นึกถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นภูหรือดอยในจังหวัดเชียงราย คนส่วนใหญ่คงจะคิดถึง ภูชี้ฟ้า ภูชี้ดาว ดอยผาตั้ง ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเชียงราย แต่สำหรับรีวิวนี้เรามีอีกหนึ่งดอยที่อยากจะมาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักซึ่งที่นี่เป็นสถานที่ที่มีเสน่ห์ไม่แพ้ที่อื่นแน่นอน สถานที่แห่งนี้คือ “ดอยสะโง้”
ดอยสะโง้ ตั้งอยู่ที่ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ห่างจากตัวเมือง ประมาณ 54 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทาง 1 ชม. เท่านั้น
การเดินทางมาที่นี่ก็ง่ายมากทางไม่ลำบาก ถ้าใครใช้รถมอเตอร์ไซค์ก็สามารถขับตาม GPS ไปจนถึงจุดชมวิวได้เลย แต่สำหรับรถยนต์จะต้องจอดรถไว้ที่หมู่บ้านและนั่งรถอีแต๋นขึ้นไปที่จุดชมวิวรู้สึกว่าจะเหมาเป็นรอบ 100 บาท นั่งได้ 7 คน สำหรับการปักหมุดสถานที่ใน GPS ต้องเลือกเป็น โครงการหลวงสะโงะ เท่านั้น ถ้าไปเลือกเป็นดอยสะโง้ GPS จะพาเราหลงแน่นอนเพราะนี่ไปหลงมาแล้ว 55555
สำหรับจุดชมวิวดอยสะโง้จะมีที่พักแบบ โฮมสเตย์ ไว้ให้บริการด้วย ราคาเริ่มต้น 1,500 บาท ต่อบ้านหนึ่งหลัง สามารถนอนได้ 4 คน หารกันแล้วก็คนละ 375 บาท ราคานี้รวมอาหารเช้าด้วยนะ ถูกมากกกกกก 5555
สำหรับการแพ็คกระเป๋าไปเที่ยวในทริปนี้เราก็พก SALZ Fresh to-go ไปกับเราด้วย
SALZ Fresh to-go คือ ชุดแปรงสีฟันและยาสีฟันขนาดพกพาสำหรับนักเดินทางที่เราพกไปเที่ยวได้สะดวกมากก ปกติเราเป็นที่ไปเที่ยวแล้วชอบซื้อแปรงสีฟันและยาสีฟันใหม่ตลอด เหตุผลก็คือลืมนี่แหละ 5555 เพราะปกติแปรงและยาสีฟันในห้องน้ำเราก็ต้องใช้อยู่แล้ว พอจะไปเที่ยวก็ลืมหยิบ ทำให้ต้องซื้อใหม่โคตรบ่อย 5555 และเราว่า SALZ Fresh to-go มันเป็นนอะไรที่เหมาะสำหรับคนแบบเรามาก และเราชอบตรงที่มีกล่องใส่มาให้ด้วยพอจะไปเที่ยวที่ไหนก็จับโยนใส่กระเป๋าได้ง่ายๆเลย
และสำหรับการมาเที่ยวที่ดอยสะโง้เราแนะนำให้พักที่โฮมสเตย์นี่แหละ ที่เราแนะนำแบบนี้ก็เพราะว่าคุณมาเที่ยวที่เดียวแต่คุณจะได้ทั้ง ดูพระอาทิตย์ตกตอนเย็น ดูดาวตอนกลางคืน ดูพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้า ซึ่งในประเทศไทยเราว่ามีน้อยมากอ่ะที่จะมาเที่ยวที่เดียวแต่ได้เห็นอะไรหลายอย่างแบบนี้ และยังมีหมอกตอนเช้าอีกด้วย ถ้าดวงดีก็อาจจะเจอเป็นทะเลหมอกแบบจังๆเลยก็ได้ แต่ตอนเราไปไม่เจอ 5555
โฮมสเตย์ทางฝั่งนี้จะเห็นวิวพระอาทิตย์ตกแต่ฝั่งที่เราพักจะเห็นวิวพระอาทิตย์ขึ้น อันนี้ก็แล้วแต่ชอบเลยเราว่าสวยทั้งคู่ และไม่ว่าจะพักฝั่งไหนเราก็สามารถเดินไปชมวิวได้หมดเลย ค่าที่พักแค่ 375 บาท บอกเลยว่าโคตรคุ้ม
มาเที่ยวที่นี่เราแนะนำให้มาถึงก่อน 16.30 เพราะจะได้เก็บของอะไรให้เรียบร้อยแล้วมารอดูพระอาทิตย์ตก ตอนเราไปคือพลาดไปหลงอยู่นาน ทำให้มาถึงที่นี่ช้าแต่ยังดีที่มาทันพระอาทิตย์ตก ไม่ทันนี่คงเศร้าอ่ะ 55555
เอ่ออ มาเที่ยวเหนือช่วงนี้ต้องพูดถึงเรื่องอากาศก่อน เราไปมาเมื่อวันที่ 6 พ.ย. 2561 อากาศเย็นกำลังดีเลยไม่หนาวมาก ส่วนตัวเราชอบแบบเย็นๆนิดๆไม่ต้องถึงขั้นหนาวเราว่ามันสดชื่นดีอ่ะ นอนสบายมากกก 5555 หลังจากนี้ก็จะหนาวขึ้นเรื่อยๆสำหรับที่ดอยสะโง้
มาถึงอาหารกันบ้าง สำหรับมื้อเย็นจะมีอาหารให้เลือก 2 แบบ แบบแรกก็คือพวกอาหารตามสั่งจานเดียว น่าจะ 50 – 60 บาท ส่วนแบบที่สองจะเป็นอย่างที่เห็นในภาพเลยเป็นอาหารแบบชนเผ่าโลคอลๆ เราไม่คอยรู้ว่าเมนูอะไรเป็นอะไร แต่ที่บอกได้เลยคือร่อยมากกกกกก ราคาอยู่ที่คนละ 250 บาท และอยากบอกว่าที่นี่ดาวขึ้นเร็วมากกกก เรากินข้าวตอนประมาณหนึ่งทุ่มคือดาวโผล่มาเยอะแล้วอ่ะ และนั่งกินข้าวก็กินกันหน้าที่พักนี่แหละซึ่งจะเห็นดาวได้จากหน้าที่พักเลย กินข้าวไปดูดาวไปบวกกับอากาศเย็นๆ บอกเลยว่าโคตรฟินนนนน
ไปดูดาวกันบ้างดีกว่าาา
ภาพแรกเราตั้งกล้องถ่ายจากหน้าที่พักเลยประมาณ 2 ทุ่ม ดาวเยอะจริงๆๆๆ
ภาพบนคือห้องที่เรานอนคืนนี้ ดูดาวดิโคตรเยอะะะะ
อยากให้ทุกคนมาเห็นกับตาจริงๆว่าดาวมันเยอะขนาดไหน หลังจากที่เราดูดาวเสร็จก็ได้เวลานอนกันแล้ว พรุ่งนี้เช้าต้องตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้น
ตื่นขึ้นมาในเช้าวันที่ 2 เราก็ออกไปรอดูพระอาทิตย์ขึ้น อากาศตอนเช้าคืนหนาวจริงๆๆ นี่ถ้าไม่ติดว่าต้องมาดูพระอาทิตย์ขึ้นนี่คงหลับยาวๆไปแล้ว 55555 และใครที่มาพักที่นี่ห้ามตื่นสายเด็ดขาดดด เพราะแสงแรกของที่นี่มันสวยจริงๆ ไปดูภาพกันดีกว่าาา
เรากดชัตเตอร์ถ่ายรัวๆมากกกก แสงยามเช้าสีส้มบวกกับหมอกจางๆที่ไหลผ่านภูเขาด้านล่างเป็นอะไรที่สวยมากกกก
ส่วนมื้อเช้าวันนี้เป็นข้าวต้มชาวดอย รสชาติเราเฉยๆนะสำหรับมื้อเช้า ส่วนตัวไม่ค่อยชอบข้าวต้มอยู่แล้ว แต่ที่ชอบมากๆเลยก็คือวิวที่อยู่ตรงหน้านี่แหละ ทำให้อาหารที่กินอร่อยขึ้นมากเลย 555555
มาดูมุมต่างๆของที่นี่กันหน่อยดีกว่าา ที่เห็นเป็นกระท่อมนี่ก็เป็นบ้านพักของที่นี่เหมือนกัน
ที่พักที่นี่จริงๆก็วิวดีทุกห้องนะ แต่ห้องที่อยู่สูงกว่าก็จะเห็นวิวได้กว้างกว่า
ดูพระอาทิตย์ขึ้นและกินข้าวเช้ากันเสร็จแล้วก็ได้เวลาอาบน้ำแปรงฟันเพราะเดี๋ยวเราต้องออกเดินทางกันต่อ แต่ก่อนอื่นขอพูดถึง SALZ Fresh to-go ในเรื่องของลวดลายบนยาสีฟันนิดนึง ซึ่งบอกตรงๆว่าตอนที่เห็นคือชอบมากกก บ้าไปแล้วยาสีฟันลายสถานที่ท่องเที่ยว 5555 ถ้ามีให้เลือกแบบลายปกติกับแบบลายสถานที่ท่องเที่ยวแน่นอนว่าเราต้องเลือกแบบสถานที่ท่องเที่ยว 5555 และไม่ได้มีแค่ลายเดียวนะแต่มีให้สะสมถึง 6 ลายด้วยกันแต่ละลายก็เป็นสถานที่ที่แตกต่างกัน เลือกกันได้ตามใจชอบเลย
สามารถหาซื้อได้ที่ Tesco Lotus/Tops/The Mall และ ร้านค้าต่างจังหวัด
อีกอย่างที่ชอบก็คือขนแปรงนี่แหละเพราะนุ่มมากและยังมีส่วนผสมของ Pink Salt ช่วยดูแลเหงือกด้วย ใช้กับยาสีฟัน Salz Fresh แล้วทำให้เราสดชื่นนนนยิ่งขึ้นไปอีกและยังทำให้เรามั่นใจมากขึ้นอีกด้วย
นี่จะจบรีวิวแล้วแต่ยังไม่ได้พาไปดูภายในห้องกันเลยว่าเป็นยังไง งั้นก็ไปดูกันก่อนดีกว่า 5555
ที่พักของที่นี่เราขอแยกเป็นสองแบบนะ แบบแรกก็จะเป็นกระท่อมแบบที่เห็นเลย เราไม่แน่ใจเหมือนกันว่าด้านในเป็นแบบไหนและตอนกลางคืนจะเย็นกว่าห้องที่เรานอนหรือเปล่า แต่คิดว่าคงไม่ค่อยต่างกัน ส่วนอีกแบบคือห้องที่เรานอนแบบภาพด้านล่าง
ซึ่งภายในห้องจะมีเตียงใหญ่ๆนอนได้ 4 คน มีผ้าห่ม ทีวี พัดลม ชั้นวางของ มีห้องน้ำในตัว ที่นี่ไฟฟ้าใช้ได้นะ แต่หลอดไฟของที่นี่จะดวงเล็กๆไม่ค่อยสว่างเท่าไหร่ ส่วนของเตียงก็โอเคนะนอนหลับสบายเลย และก็ขาดเหลืออะไรก็สามารถแจ้งพี่เจ้าของได้ เช่น ต้องการหมอนหรือผ้าห่มเพิ่ม เอ่อไม่มีผ้าเช็ดตัวให้นะต้องเตรียมมาเอง คร่าวๆประมาณนี้ ส่วนตัวเรามองว่าคุ้มมากกับราคาที่จ่ายไป
เกือบลืมบอกที่นี่มีหมาหลายตัวเลย เก็กท่าถ่ายรูปเก่งด้วย 55555
และแล้วก็ถึงเวลากลับกันแล้วก่อนกลับก็ยังมีหมอกอยู่เลย สำหรับดอยสะโง้ส่วนตัวเราชอบมากนะ เดินทางง่าย วิวโคตรสวย มาที่เดียวได้ทั้ง ดูพระอาทิตย์ขึ้น ดูดาว ดูพระอาทิตย์ตก แต่ราคาที่จ่ายไปแค่ 375 บาท บอกเลยว่าโคตรคุ้มมม ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ต้องไปเที่ยวก่อนตายให้ได้
ยังไม่หมด มีของแถมอีกนิดนึง มีอีกสองสถานที่ที่เราอยากแนะนำให้ไปเที่ยวเมื่อมาดอยสะโง้นั่นก็คือ ดอยผาหมีและดอยผาฮี้ เป็นสองดอยที่ขึ้นชื่อเรื่องกาแฟและวิวสวย ที่เราแนะนำก็เพราะว่าเป็นสถานที่ที่ใกล้กันจากดอยสะโง้ขับตาม GPS ไปประมาณ 30 นาที ก็จะไปถึงดอยผาหมีและขับต่อไปอีกนิดก็จะถึงดอยผาฮี้ หลังจากเที่ยวทั้งสองที่เสร็จแล้วก็สามารถขับรถกลับเข้าเชียงรายทางดอยตุงได้เลย แต่น่าเสียดายที่เวลาเรามีน้อยจึงได้แวะไม่นาน เอาเป็นว่าไปดูภาพกันเลยดีกว่า 5555
ดอยผาหมี (จำชื่อร้านกาแฟที่เราแวะไม่ได้ มีหลายร้านมาก วิวแต่ละร้านก็จะแตกต่างกันไป)
ดอยผาฮี้ (ที่นี่เราถ่ายภาพมาเยอะเพราะยังพอมีเวลาเหลือ 5555)
น่าเสียดายที่เรามีเวลาให้ถ่ายรูปน้อยไปหน่อยเลยถ่ายมาได้นิดเดียว แต่ก็ถือว่าเป็นของแถมเล็กๆน้อยๆละกัน แต่ถ้าใครไปเที่ยวแล้วมีเวลาเราว่านอนที่ดอยผาหมีหรือดอยผาฮี้อีกคืนก็ดีเหมือนกันเพราะที่นี่เด่นเรื่องทะเลหมอกตอนเช้า ถ้าเรามีโอกาสครั้งหน้าจะกลับมารีวิวอย่างละเอียดอีกครั้ง 5555 สำหรับรีวิวนี้ก็ขอจบไว้เท่านี้ ไว้เจอกันใหม่รีวิวหน้าาาาาา
ติดตามรีวิวใหม่ๆของเราได้ที่นี่ : เที่ยวก่อนตาย Bucket list TH