GOOD VIBE IN CHINA เที่ยวเทียนจิน (Tianjin) 3 วัน 2 คืน งบ 13,000 บาท (รวมทุกอย่าง)

อยากไปเที่ยวจีนแต่ไม่รู้จะเริ่มเที่ยวจากเมืองไหนดีเราแนะนำเมืองนี้เลย เทียนจิน (Tianjin) เมืองชิลๆ เที่ยวง่าย สะอาด งบน้อย บรรยากาศสไตล์ยุโรป 555 ถือเป็นเมืองที่เหมาะมากสำหรับคนที่จะลองไปจีนครั้งแรก และเทียนจินยังเป็นเมืองที่เหมาะสำหรับคนทุกเพศทุกวัย จะไปเที่ยวชิคๆกับเพื่อนหรือพาครอบครัวไปเที่ยวแบบชิลๆก็ได้เหมือนกัน การไปเมืองนี้ทำให้เราลบภาพแย่ๆของเมืองจีนที่เคยได้ยินมาหมดเลย และสำหรับเมืองนี้ที่เที่ยวสวยๆก็บอกเลยว่ามีเยอะมาก โดยเฉพาะใครที่เป็นสายชิลเราว่าต้องชอบเมืองนี้มากแน่ๆ และทริปนี้เราไปมาทั้งหมด 3 วัน 2 คืน ใช้งบไปทั้งหมดแค่ 13,000 บาท (รวมทุกอย่าง) บอกเลยว่าถูกมากกกกก

ทริปนี้เราไปมาทั้งหมด 10 สถานที่ จะมีที่ไหนกันบ้างไปดูกันได้เลยยยย

 

การเดินทางไปเทียนจินเราเดินทางด้วยสายการบิน NokScoot บินตรงจากดอนเมืองไปลงสนามบินเทียนจิน ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 4.30 ชั่วโมง และไม่ต้องกลัวว่านั่งนานแล้วจะเมื่อย เพราะนกสกู๊ตใช้เครื่องบินลำใหญ่ นั่งสบายกว่า เหยียดขาได้ยาว ไม่เมื่อย ไม่อึดอัด

สำหรับราคาตั๋วบินตรงไปเทียนจินเริ่มต้นที่ 3,600 บาทเท่านั้น เพราะ NokScoot เป็นสายการบินราคาประหยัดอยู่แล้วทำให้ตั๋วราคาไม่แพง

NokScoot มีบินตรงจากดอนเมืองสู่เทียนจินทุกวัน สะดวกวันไหนก็ไปกันได้เลย

อ่านรีวิวเสร็จแล้วเข้าไปตรวจสอบเที่ยวบินได้ที่ > http://www.nokscoot.com

#NokScoot  #บินไกลสบายกว่าราคาคุ้ม  #บินตรงเทียนจินกับนกสกู๊ต

เราออกเดินทางจากไทยเวลา 13:15 น. และไปถึงเทียนจินเวลา 18:45 น. (เวลาในเทียนจินเร็วกว่าไทย 1 ชม.)

ก่อนไปดูที่เที่ยวเรามาดูข้อควรรู้กันก่อนดีกว่า

1.ช่วงที่เราไปเป็นช่วงเดือนธ.ค. เป็นหน้าหนาวของที่นู้น อุณหภูมิจะประมาณ 4 ถึง -4 องศา เสื้อกันหนาวต้องพร้อม! ข้อดีของการไปหน้าหนาวคืออากาศดี ฟินเฟ่อออ แต่ข้อเสียคือมืดไวมากจ้าา ห้าโมงก็คือมืดแล้วววอะ

2. สถานที่เที่ยวในเทียนจินส่วนใหญ่จะอยู่ใกล้กัน เดินได้เลย แต่ถ้าใครไม่อยากเดินก็ขึ้นแท๊คได้ ราคาเริ่มต้นที่ 8 หยวน หรือ 40 บาท หรือจะใช้บริการmrtก็ได้มีครอบคลุมเกือบทั่วเมือง ราคาก็ถู๊กถูก เริ่มต้นแค่ 2 หยวน หรือ 10 บาท สามารถโหลดแอพ metroman เพื่อดูเส้นทางและราคาได้เล้ยยย สะดวกมากๆ

3. คนจีนน่ารักกว่าที่คิด ถามไรก็ตอบ ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวดีไม่มีเหวี่ยงเลยจ้าา ดีกว่าที่เราคิดไปเยอะมากกก แต่ถ้าเรื่องแซงคิวก็ต้องยอมเขาแหละ55555(แล้วแต่สถานที่ แล้วแต่คน)

4. คนจีนไม่พูดภาษาอังกฤษถึงจะเป็นศัพท์ง่ายๆเขาก็ไม่ได้ แต่ไม่ใช่อุปสรรคเพราะเราสามารถใช้ทรานสเลดพูดคุยกันได้ อย่างแอพ Google Translate หรือ Baidu Translate เป็นต้นนนนน

5. เทียนจินค่อนข้างสะอาดเลย ไม่สกปรก ส่วนห้องน้ำแล้วแต่ที่ แต่ที่แน่ๆมีประตูทุกห้องไม่ต้องกังวล555555

6.ไปจีนต้องมีวีซ่า ของ่าย ไม่ยุ่งยาก

พร้อมแล้วก็ไปดูกันเลยดีกว่าว่าทริปนี้เราไปที่ไหนกันมาบ้าง

HAIHE CULTURAL SQUARE

เปิดโหมดสโลไลฟ์ เดินชิลล์กลางสวนที่ haihe cultural square สวนสาธารณะริมแม่น้ำ haihe ที่เดินเข้ามาแล้วจะต้องสะดุดตากับตึกและตัวอาคารที่อลังกาลโดดเด่นนนเป็นสถาปัตยกรรมจีนกับยุโรป มาเซลฟี่เดินเล่นชิลๆคือเพลินนน เผลอๆจะถูกใจกว่าเดิมเพราะถ้ามาช่วงเย็นๆบริเวณนี้จะเปิดไฟสว่างสไวไปทั่ง บรรยาศคือดีเต็มสิบเลยย

บรรยากาศชิลมากกกกก

แสงสีที่นี่สวยสุดๆเดินถ่ายรูปเพลินเลย 555

Tianjin Quanye Bazaar

เดินเพลินช้อปสะใจกันที่ Tianjin Quanye Bazaar แหล่งช้อปที่ใหญ่สุดในเทียนจิน มีหลายร้านหลายแบรนด์มากกกก งานนี้คือเงินปลิวไปได้ง่ายๆเลย555555 นอกจากจะช้อปเพลินแล้วยังมีแบล็คกราวน์สวยๆชวนถ่ายรูปด้วยเพราะตัวอาคารแถวนี้จะถูกออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปผสมความจีนหน่อยๆ คือโดดเด่นกระแทกตามากๆจ้า5555

Huangyaguan Great Wall

กำแพงเมืองจีนอีกหนึ่งแลนด์มาร์คของจีนที่ห้ามพลาด เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก มีความยาวถึง 21,196 กิโลเมตร ครอบคลุมกว่า 15 มณฑลในประเทศจีนและมีหลายด่านให้เข้าชมมาก ด่านที่ใกล้เทียนจินสุดคือด่านhuangyaguan เขาบอกว่าด่านนี้นักท่องเที่ยวยังไม่ค่อยนิยม ใครไม่อยากเซลฟี่ติดคนเยอะเราแนะนำที่นี่เลย แต่เศร้ามากช่วงที่เราไปหิมะตกหนักถนนปิด ทางเราเลยอดชมความยิ่งใหญ่ของกำแพงเมืองจีนนไปเลยจ้าาาา ถือว่าดวงดีมากๆ5555555 (ในเลข 5 มีน้ำตาซ้อนอยู่ 555)

วิธีเดินทาง
สามารถนั่งรถไฟที่สถานี Tianjin Railway Station 07.24 น. (ไม่แน่ใจว่ามีกี่รอบ)ไปลงที่สถานี Jixian และเหมารถtaxiไป-กลับ ไปลงที่ Huangyaguan Great Wall ได้เลย ส่วนขากลับนั่งรถไฟที่สถานีเดิม มีประมาณสามรอบ เราแนะนำให้ซื้อตั๋วขากลับตอนถึงสถานีก่อนเลยกันพลาด5555

Yuyanggu Ancient Street

พลาดจากกำแพงเมืองจีนไปแล้วเราเลือกที่จะไปเที่ยวต่อกันในเมือง Jixian อย่าง Yuyanggu Ancient Street ถนนวัฒนธรรมโบราณที่อบอวลไปด้วยกลิ่นอายความจีน มีร้านค้า ร้านของกินสารพัดสิ่งให้แวะกระจายรายได้5555 อย่างที่บอกว่าวันนี้หิมะตกหนักมาก เมืองนี้เลยถูกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลน แค่ข้างทางก็คือถ่ายรูปสวยแล้ว สิบสิบสิบไปเลย!

 

Tianjin Binhai Library

ขอยอมให้กับความชิคของห้องสมุดที่นี่ Tianjin Binhai Library ดีไซน์โคตรล้ำไม่เหมือนใคร ภายในห้องถูกแต่งเป็นสีขาว มีชั้นวางที่ออกแบบคล้ายเกลียวคลื่นลดหลั่นเป็นขั้นบันได ที่นี่คืออลังกาลล้านดวงสามารถจุหนังสือได้ถึงหนึ่งล้านเล่ม แต่หนังสือในส่วนที่อยู่บนๆจะเป็นแค่มอคอัพ หนังสือจริงจะมีให้อ่านอยู่แค่ตามขั้นบันไดล่างๆเท่านั้นน้าาาา แต่มาแล้วไม่ผิดหวังแหละเพราะจะถ่ายรูปมุมไหนก็คือสวยไปหม้ดดดดด

ที่นี่ไม่อนุญาตให้เอากล้องใหญ่เข้าไปใช้ได้แค่กล้องโทรศัพท์น้าาา กล้องและอาหารต่างๆที่พกมาต้องเอาไปฝากไว้ที่ล๊อคเกอร์ (ฟรี)

Tianjin Eye

แลนด์มาร์คที่ห้ามพลาดเมื่อมาเทียนจินคือไปโพสต์ท่าคู่กับ Tianjin Eye ชิงช้ายักษ์ที่มีความสูงถึง 120 เมตร!!! หรือถ้าใครอยากจะชมวิวจากมุมสูงก็สามารถขึ้นไปนั่งชมวิวบนตัวชิงช้าได้เลย ค่าขึ้นจะอยู่ที่ 70หยวน แต่สำหรับเราขอเดินทอดน่องริมน้ำชิลๆ ท่ามกลางบรรยากาศดีๆริมแม่น้ำ haihe จ้าาาาา

Guwenhua Jia

ใครสายช้อปสายกินต้องถูกใจสิ่งนี้แน่นอน ถนนวัฒนธรรมสไตล์จีนโบราณ มีร้านค้าเรียงรายให้ช้อปอยู่หลายร้าน ส่วนของกินก็มีขายตลอดเส้นทาง มาที่นี่ก็คือไม่กลับไปมือเปล่าแน่นอน ของดีของดังที่เราชอบมากคือขนม Mahua หรือ Fried Dough Twists เป็นเหมือนแป้งทอดกรอบโรยและปรุงรสด้วยอะไรต่างๆ ที่มองน่าตาอาจดูไม่น่ากินแต่พอได้ชิมแล้วติดใจไปเลยยย! ใครมาแถวนี้ลองมาแวะชิมดูนะระวังจะติดใจแบบเราล่ะ5555

ขนม Mahua หรือ Fried Dough Twists บอกเลยว่าอร่อยมากกก ต้องลองๆๆๆ

Catholicism Xikai Head

ใครมาเทียนจินต้องแพลนโบสถ์เซนต์โจเซฟเข้าไปในทริปด้วย Catholicism Xikai Head หรือ โบสถ์เซนต์โจเซฟ โบสถ์โรมันคาทอลิคที่ใหญ่สุดในเมืองเทียนจิน ตัวผนังด้านนอกทำมาจากอิฐที่ทุกก้อนถูกส่งตรงมาจากฝรั่งเศษ! เว่อร์วังมาก! ส่วนภายในก็ถูกตกแต่งด้วยหลังคาโค้งมนแถมมีตัวเสาที่ถูกสลักไว้อย่างสวยงาม ใครที่อยากมาชมความสวยงามภายในโบสถ์มีข้อควรระวังแบบเล็กๆน้อยๆคือควรสำรวม อย่าส่งเสียงดัง และต้องถอดออกหมวกด้วยนะจ้ะเพื่อเป็นการให้เกียรติกับสถานที่และคนที่เข้ามาสวดภาวนาจ้ะพี่จ๋า

China Porcelain House

สายอาร์ต สายแชะ สายโพสต์ ต้องไม่พลาด China Porcelain House บ้านสไตล์ฝรั่งเศษที่ถูกตกแต่งไปด้วยแจกัน กระเบื้อง ถ้วยชาม เครื่องสังคโลกสไตล์จีนแต่ละช่วงสมัย มีตั้งแต่ตามผนัง หน้าต่าง ประตูยันรั้วบ้าน ที่นี่ถือเป็นการผสมผสานระหว่างจีนและฝรั่งเศษที่ออกมาได้อย่างลงตัวสุด ใครชื่นชอบงานอาร์ตงานแปลกแบบนี้ หรืออยากจะมาแชะรูปเก๋ๆ ต้องเสียค่าเข้าในราคา 50 หยวนน้าาา

Italian Style Town

มาดื่มด่ำบรรยากาศสไตล์อิตาลี่ที่ไม่ต้องบินไปไกลกันที่ย่าน Italian Style Town ย่านนี้ตัวอาคารจะถูกออกแบบและตกแต่งเป็นสไตล์ยุโรปแทบทั้งหมด แถมยังมีร้านอาหารสไตล์อิตาเลี่ยนให้อิ่มอร่อยและชิลสุดๆ ดูยังไงก็ไม่เหมือนจีนเลยแหละะะ มาจีนแต่ได้รูปเหมือนอยู่ยุโรปเฉยงงมากกกก5555

 

สรุปค่าใช้จ่ายทริปนี้

ทริปนี้เราหมดไปแค่ 12,864/คน รวมตั๋วเครื่องบินแล้วค่าวีซ่าแล้ว คือถูกมากกก (ทริปนี้เราไปกัน6คน)
ค่าตั๋วไปกลับ nokscoot 7,814
ค่ารูปถ่ายทำวีซ่า 390
ค่าทำวีซ่า 1,650
ค่าเดินทาง+กิน 2,278
ค่าซิม 100
ค่าที่พัก 632/3 คืน
เราพักที่ : https://bit.ly/2MIwWfQ (นอนได้หกคน ห้องสะอาด อยู่แถวๆ Italian town และใกล้ mrt มากกกกก)

รวมทั้งหมด 12,864 บาท

และก็จบไปแล้วสำหรับรีวิวเทียนจิน 3 วัน 2 คืน อ่านจบแล้วเราเชื่อว่าหลายๆคนคงมีความคิดที่อยากจะไปจีนขึ้นมาบ้างแล้วแหละ 5555 อ่านเสร็จแล้วชอบอะไรไม่ชอบอะไรก็บอกกันได้น่าและฝากติดตามรีวิวใหม่ๆของเราได้ที่นี่เลย : เที่ยวก่อนตาย Bucket list TH