ถ้าพูดถึงที่เที่ยวใน จ.นครศรีธรรมราช คนส่วนใหญ่คงจะคิดถึงที่เที่ยวดังๆ เช่น หมู่บ้านคีรีวงหรืออำเภอขนอม เป็นต้น แต่เราอยากบอกว่าจริงๆแล้วนครยังมีที่เที่ยวอีกเยอะมากที่คนไทยยังไม่รู้จัก สำหรับรีวิวนี้เราเลยจะอาสาพาไปเที่ยวหนึ่งในสถานที่ลับๆของจังหวัดนครศรีธรรมราชที่คุณอาจไม่รู้จักมาก่อน ที่นี่คือ “กรุงชิง” ตำบลเล็กๆแต่ธรรมชาติโคตรใหญ่
“กรุงชิง” คือตำบลแห่งหนึ่งใน อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช จุดเด่นของที่นี่ก็คือธรรมชาติที่ต้องบอกเลยว่าสวยมากและอากาศของที่นี่ก็ดีมากเช่นกัน แต่สิ่งที่พิเศษยิ่งกว่าก็คือความสงบของที่นี่ บอกเลยว่าโคตรสงบเพราะนักท่องเที่ยวไม่เยอะ และมาเที่ยวที่นี่ไม่ต้องกลัวเบื่อเพราะมีกิจกรรมให้ทำเยอะมากเดี่ยวเราจะเล่าให้ฟังว่ามีอะไรบ้าง สำหรับการมาเที่ยวที่กรุงชิงใช้เวลาแค่ 2 วัน 1 คืน ก็เที่ยวได้ครบแล้วและค่าใช้จ่ายรวมทุกอย่างแค่ 850 บาท/คน เท่านั้น โคตรถูกกกก
ก่อนอื่นขอบอกก่อนว่าสำหรับทริปนี้เราจองที่พักและกิจกรรมต่างๆกับทางชุมชนซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีที่สะดวกมาก เราแค่บอกความต้องการของเราว่า อยากทำกิจกรรมอะไร อยากได้ที่พักแบบไหน ต้องการรถรับส่งหรือไม่ ทางชุมชนสามารถจัดการให้เราได้หมด เรียกได้ว่า one stop service กันเลยทีเดียว 555
ซึ่งใครสนใจสามารถเข้าไปสอบถามได้ที่ : บ่อน้ำร้อนกรุงชิง นครศรีธรรมราช
และตามที่เราบอกไปว่าทริปนี้เราใช้เงินไปแค่ 850 บาท/คน แต่สิ่งที่ได้มาบอกเลยว่าโคตรคุ้ม
- ที่พักโฮมสเตย์ 1 คืน (มี น้ำเปล่า,น้ำแข็ง,เตาปิ้งย่าง,ถ่าน ให้ด้วย)
- รถรับ – ส่ง ไปล่องแก่ง
- ล่องแก่งคลองกลาย (ระยะเวลาล่องแก่ง 2 ชม.)
- รถรับ – ส่ง เขาจังโหลน
- ดูทะเลหมอกที่เขาจังโหลน
- อาหารเช้า
- ค่าเข้าอุทยานเพื่อเดินป่าไปดูน้ำตกกรุงชิง + รถรับ – ส่ง
- เดินป่าตามล่าน้ำตกกรุงชิง
- อาหารมื้อเที่ยง
คุ้มกว่านี้มีอีกไหมมม 5555 และยังมีกิจกรรมอื่นๆที่เรายังไม่ได้ทำอีก เช่น แช่บ่อน้ำร้อน,นวดแผนไทย,เที่ยวถ้ำหงส์ เป็นต้น
สำหรับการเดินทางมาที่ ต.กรุงชิง สำหรับคนที่มีรถส่วนตัวก็สามารถขับมาเองได้เลยหรือถ้าใครไม่มีรถส่วนตัวที่นี่ก็มีบริการรถรับส่งเหมือนกัน โดยสามารถติดต่อได้ทาง link ที่เราแนบไว้ด้านบนเลย ตอนจองที่พักและกิจกรรมบอกได้เลยว่าต้องการรถรับส่งด้วย
ทริปนี้เราไปกับเพื่อนรวมทั้งหมด 4 คน ที่พักที่นี่ก็มีให้เลือกหลายที่เหมือนกัน แต่ครั้งนี้เราเลือกพักแบบโฮมสเตย์ ซึ่งจะมีทั้งแบบนอนกับเจ้าของบ้านหรือแบบบ้านพักแบบเป็นหลังให้เราพักกันเองแบบที่เราพักในทริปนี้ บอกเลยว่าบรรยากาศโคตรดีเพราะหลังบ้านมีลำธารเล็กๆไหลผ่าน เช้าๆถ้าดวงดีหน่อยก็จะตื่นขึ้นมาเจอหมอกบางๆที่หลังบ้านได้ด้วย 5555
สำหรับทริปนี้เรามีกิจกรรมลุยๆถึง 2 กิจกรรม วันแรกก็ล่องแก่งซึ่งเราเลือกที่จะพายกันเองและใช้เวลาถึง 2 ชั่วโมง ล่องแก่งจนเสร็จเมื่อยแขนแน่นอน 55555 และวันที่สองนี่หนักกว่า เราจะเดินป่าเพื่อเข้าไปเที่ยวที่น้ำตกกรุงชิงซึ่งระยะทางไปกลับคือ 7.4 กิโลกรัม เอ้ยยย กิโลเมตร ใช้เวลาเดินไปกลับไม่รวมเล่นน้ำก็ราวๆ 3 ชม. สำหรับคนปกติ ซึ่งบอกเลยว่าถ้าไม่เคยเดินป่ามาก่อนนี่เมื่อยแน่นอน เราเลยเตรียมตัวช่วยสำคัญของทริปนี้มาด้วยนั่นก็คือ ยูนิเรน สเปรย์ ซึ่งต้องบอกเลยว่าจำเป็นมากกกก ไม่ว่าจะเป็นนักเดินป่าหน้าประจำหรือหน้าใหม่ก็เกิดอาการปวดเมื่อยได้เหมือนกัน ถ้าไปเดินป่าพกไว้ไม่เสียหายแน่นอน
หลังจากเราเข้าที่พักแล้วเก็บของกันเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาไปทำกิจกรรมแรกกันแล้วนั่นก็คือ ไปล่องแก่งที่คลองกลาย โดยจะมีรถของชุมชนมารับหน้าที่พักและพาเราไปยังจุดเริ่มล่องแก่ง อย่างที่บอกไปว่าใช้เวลาประมาณ 2 ชม. ระยะทางไกลพอสมควรระดับความโหดเราว่าอยู่ที่ความเชี่ยวของน้ำด้วย สำหรับที่นี่อยู่ที่ระดับกลางๆนะเราว่า คือสามารถพายกันเองได้แต่ก็จะมีสตาฟคอยดูแลเราอยู่เหมือนกัน หรือถ้าใครพายไม่เป็นไม่มั่นใจก็ให้สตาฟพายให้ได้เหมือนกันไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
เราพายกันเองได้…มากกก 55555 แต่ก็พอไหลตามน้ำไปได้เรื่อยๆ แล้วสำหรับการล่องแก่งที่นี่วิวข้างทางคือโคตรดีอ่ะมองไปทางไหนก็มีแต่ธรรมชาติ
ถ้ามีจุดไหนที่เราอยากแวะถ่ายรูปก็สามารถบอกสตาฟได้เลย แวะได้ทุกเมื่อและก็จะมีบางจุดที่เราสามารถลงเล่นน้ำหรือกระโดดน้ำเล่นได้ด้วย สนุกสัสๆๆ
รูปนี้แม่งโคตรเบลอมือสั่น 555555 แต่ไม่ค่อยมีรูปที่ถ่ายตอนลงแก่งเลยเอารูปนี้ไปก่อนละกัน 5555
ในที่สุดเราก็ผ่านมันมาได้แล้ว 5555 คว้ำไปประมาณ 5 รอบ เสร็จแล้วเราก็กลับที่พักกันเลย
รูปที่เราถ่ายตอนล่องแก่งเราถ่ายด้วยกล้อง Action Camera ตัวเล็กๆอย่างเจ้า YI 4K PlUS เราชอบที่สุดตรงที่สามารถถ่ายรูปนิ่งเป็นไฟล์ Raw แล้วมาแต่งต่อได้นี่แหละ ที่สำคัญคือราคาถูกมากถ้าเทียบกับรูปที่ได้ ใครสนใจเข้าไปสอบถามข้อมูลเ
อย่างที่บอกว่าสองชั่วโมงนี่เมื่อยแขนพอสมควรเลย เราพก ยูนิเรน สเปรย์ มาด้วยฉีดไปที่จุดที่เมื่อยก็จะช่วยบรรเทาให้อาการดีขึ้น
มาเที่ยวแบบนี้สิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือการปิ้งย่างนี่แหละ สำหรับเตาย่างและถ่านทางที่พักมีให้ แต่พวกเนื้อสัตว์ต้องซื้อมาเอง
สำหรับวันที่สองเราตื่นตั้งแต่ ตี5 เพื่อจะขึ้นไปดูทะเลหมอกที่เขาจังโหลน โดยจะมีรถมารับหน้าที่พัก ทางขึ้นไปจุดชมวิวทางชันและขรุขระมากก กว่าจะขึ้นไปถึงจุดชมวิวบอกได้เลยว่าตูดระบม 5555
สำหรับวันที่เรามาถือว่าดวงซวยไปหน่อย เพราะเราไม่เจอทะเลหมอกแบบที่คิดไว้ 5555 เพราะช่วงที่เรามาเป็นช่วงที่ลมแรงและพัดหมอกไปหมดเลยทำให้ไม่มีหมอกในช่วงนี้ ต้องมาแก้มือครั้งหน้า 5555
ถึงจะไม่มีหมอกแต่เราว่าที่นี่ก็ยังสวยอยู่ดีมองไปด้านหน้านี่คือเขียวไปหมด 555
หมอกหรือควัน ?
สำหรับมื้อเช้าเรากินกันที่นี่เลย มีข้าวต้ม ปาท่องโก๋ หมูปิ้ง กาแฟ นี่ถ้ามีหมอกด้วยนะบอกเลยว่าโคตรฟิน 5555
กินมื้อเช้าและถ่ายรูปกันเสร็จแล้วเราก็กลับที่พักเพื่อเตรียมตัวเดินป่ากัน
สำหรับการเดินป่าเพื่อไปที่น้ำตกกรุงชิงเราต้องบอกก่อนว่าเราพลาดมากเรื่องที่ไม่ได้เช็คก่อนว่าที่นี่มีทากด้วย เราเลยใส่ขาสั้นกันไป ได้แผลกลับมาคนละสองสามแผลเลยจ้า ซึ่งนี่เป็นวิธีที่ผิดนะ ถ้าไปที่นี่ควรเตรียมอุปกรณ์สำหรับป้องกันทากมาด้วย และไม่ว่าจะไปเดินป่าที่ไหนไม่ว่าจะระยะสั้นหรือยาวควรเช็ครายละเอียดให้ดีด้วย ห้ามลืมเด็ดขาดด !!!!
อย่างที่บอกไปว่าเดินป่าที่นี่ระยะทางไปกลับประมาณ 7.4 ก.ม. ใช้เวลาขาไปประมาณ 2 ชม. ขากลับก็ไม่เกิน 1 ชม. ซึ่งการเดินป่าที่นี่เราจะให้เจ้าหน้าที่พาไปหรือไปเองก็ได้เหมือนกันเพราะทางอุทยานอนุญาติให้เดินได้ สำหรับที่นี่ถือว่าทางไม่ค่อยชัน มีชันแค่บางจุด แต่จะไปชันมากๆช่วงหลังๆ แต่ถึงจะบอกว่าทางไม่ค่อยชันแต่ระยะทางก็ไม่ใช้ใกล้ๆ โดยเฉพาะมือใหม่หรือคนที่เดินป่าไม่บ่อยต้องมีอาการปวดเมื่อยแน่นอน
อย่างที่บอกไปช่วงแรกว่าเราพก ยูนิเรน สเปรย์ มาด้วยซึ่งขนาดเล็กมากกก พกพาง่ายและการใช้งานก็โคตรง่าย ในระหว่างที่เดินเริ่มเมื่อยตรงไหนก็สามารถฉีดไปยังจุดที่ปวดเมื่อยได้เลย
สำหรับน้ำตกกรุงชิงมีทั้งหมด 7 ชั้น เราเริ่มต้นเดินจากชั้นบนลงไปชั้นล่างเริ่มที่ชั้น 7 ลงไปเรื่อยๆ ซึ่งจุดหมายของเราคือชั้นที่ 2 ซึ่งเป็นจุดที่สวยที่สุด อยากบอกว่าจุดที่ยากที่สุดของการเดินป่าครั้งนี้คือทางลงไปยังน้ำตกชั้นสองนี่แหละ ทางโคตรรรรชัน แล้วตอนช่วงเราไปฝนตกด้วยกลัวลื่นมาก ต้องระวังตัวสุดๆ
และนี่คือสิ่งที่เราเจอ ถึงทางลงจะโหดสัสแต่ต้องบอกเลยว่าคุ้มค่าจริงๆที่ได้มา 55555
หลังจากถ่ายรูปกันจนพอใจแล้วเราก็ได้เวลาเดินกลับกันแล้ว
หลังจากเราออกมาจากน้ำตกชั้น 2 เราก็เดินมาแวะพักที่ชั้น 6 (ถ้าจำไม่ผิดนะ ไม่แน่ใจว่าชั้นไหน เจ้าหน้าที่บอกว่าจะมี 2 ชั้น ที่เราสามารถเล่นน้ำได้)
เมื่อได้นั่งพักกันแล้วสิ่งแรกที่ทำก็คือหยิบ ยูนิเรน สเปรย์ มาฉีดจุดที่ปวดเมื่อยนี่แหละ
ต้องยอมรับว่าใช้งานง่าย พกพาง่าย และได้ผลดีมากกก ไม่มีกลิ่นด้วย บอกเลยว่าจำเป็นมากกกก ไม่ว่าจะเป็นนักเดินป่าหน้าประจำหรือหน้าใหม่ก็เกิดอาการปวดเมื่อยได้เหมือนกัน พกไว้ไม่เสียหายแน่นอน
และเราก็กินข้าวกันที่นี่แหละซึ่งเป็นข้าวห่อใบตองที่ทางชุมชนเตรียมไว้ให้ ด้วยความที่หิวมากเลยไม่ได้ถ่ายมาให้ดู แต่ไม่ต้องห่วงอิ่มแน่นอน 555
ก่อนกลับก็ถ่ายรูปกันก่อน
ถ้าไม่รีบกลับนี่อยากนอนชิลๆที่ชั้นนี้เหมือนกันเพราะบรรยากาศที่นี่ดีมากกกก
ถ่ายรูปกันจนพอใจก็ได้เวลากลับแล้ว เราออกมาจากจุดเดินป่าก็มีรถของชุมชนไปส่งเราที่พักเพื่ออาบน้ำเก็บของและเดินทางกลับ
ทริปนี้ถือว่าเป็นทริปสั้นๆ 2 วัน 1 คืน ที่โคตรคุ้ม กิจกรรมโคตรเยอะ ธรรมชาติโคตรสวย เป็นอีกหนึ่งสถานที่ในจังหวัดนครศรีธรรมราชที่เราอยากให้ทุกคนลองมาสัมผัส รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน 55555
- สำหรับทริปนี้เรามีบ้านอยู่ที่นครอยู่แล้วก็เลยเดินทางไปจากบ้านเป็นทริป 2 วัน 1 คืน
- ค่าใช้จ่ายในทริป 850 บาท เราแจ้งรายละเอียดไปช่วงแรกของรีวิวแล้วว่ามีอะไรบ้าง (ไม่รวมค่าเดินทางไปที่กรุงชิง)
- สำหรับคนที่มาจากต่างจังหวัดอยากมาทริปแบบนี้ เราว่าจัดเป็นทริป 3 วัน 2 คืน น่าจะดีกว่า
- ใครสนใจสามารถเข้าไปสอบถามได้ที่ : บ่อน้ำร้อนกรุงชิง นครศรีธรรมราช
จบไปแล้วสำหรับรีวิวนี้ ติดตามรีวิวใหม่ๆของเราได้ที่นี่เลย : เที่ยวก่อนตาย Bucket list TH