สำหรับหน้าฝนแบบนี้หลายๆคนคงคิดว่าทะเลไม่น่าเที่ยว ไหนจะฝนตก ไหนจะคลื่นสูง แถมทะเลไม่ใสอีก แน่นอนว่าเรื่องที่พูดมามันก็ถูก เมื่อก่อนเราก็เป็นคนหนึ่งที่คิดแบบนี้ แต่เดือนที่แล้วผมมีโอกาสได้ไปเกาะแห่งหนึ่งในจังหวัดพังงา ที่ซึ่งทำให้ความคิดของผมเปลี่ยนไป
เกาะที่เราไปมาคือ “เกาะยาว” ซึ่งเกาะยาวเนี่ยจริงๆจะมีด้วยกัน 2 เกาะ ได้แก่เกาะยาวน้อยและเกาะยาวใหญ่ โดยทั้งสองเกาะตั้งอยู่ใกล้กันเลย จุดเด่นของที่นี่ก็คือเที่ยวได้ทั้งปี เพราะที่เกาะยาวจะมีเกาะเล็กใหญ่ล้อมรอบ เมื่อมีมรสุมหรือคลื่นลมแรงๆก็จะมีผลต่อเกาะนี้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะเกาะรอบๆได้คอยรับแรงลมแรงคลื่นไปแล้ว ทำให้มาเที่ยวที่นี่ได้อย่างสบายใจ ไม่ว่าจะเป็นฤดูไหนก็มาเที่ยวได้ สำหรับทริปนี้เราพักที่เกาะยาวน้อย แต่วันสุดท้ายจะแวะไปเที่ยวที่เกาะยาวใหญ่
สิ่งที่เราชอบที่สุดของที่นี่แบ่งได้เป็น 4 อย่าง
1.เกาะยาว เป็นเกาะที่ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆของ 3 จังหวัด
– ฝั่งอ่าวพังงา : เขาตะปู เขาพิงกัน เป็นต้น
– ฝั่งกระบี่ : เกาะบิเละ เกาะห้อง 11 เกาะ
– ฝั่งภูเก็ต : เกาะไข่นอก เกาะไข่ใน
ทำให้การมาเที่ยวที่นี่เราจะสามารถเดินทางเดินต่อไปเที่ยวเกาะฝั่งไหนก็ได้ ซึ่งใกล้มากนั่งเรือแป่ปเดียวก็ถึง แต่ถ้าเราพักที่อื่น เช่น พักที่ภูเก็ตแล้วจะออกมาเที่ยวเกาะเราต้องนั่งเรือนานกว่าเดิม เที่ยวเสร็จก็นั่งเรือกลับไกลอีก วันต่อมาถ้าจะเที่ยวที่อื่นอีกก็ต้องนั่งเรือนานเหมือนเดิม ซึ่งมันทำให้เหนื่อยมากกก แต่ถ้าเรามาเที่ยวที่เกาะยาวเราจะเที่ยวฝั่งจังหวัดไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเที่ยวแค่จังหวัดเดียว เรียกว่ามาทริปเดียวเที่ยวสามจังหวัดเลยก็ว่าได้ 55555
2.เกาะยาว เป็นเกาะแห่งความสงบที่แท้จริง ปกติไปเที่ยวเกาะต่างๆแน่นอนว่าต้องมีนักท่องเที่ยวเต็มไปหมดเดินไปไหนก็มีแต่คน แต่ที่นี่ไม่เหมือนที่อื่นที่นี่ส่วนใหญ่คนที่มาเที่ยวจะเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติและคนที่มาพักที่เกาะยาวส่วนใหญ่จะมาเพื่อพักผ่อนทำให้เกาะนี้เงียบสงบสุดๆ ถ้าอยากจะหาวันว่างมานอนชิลๆพักผ่อนที่เกาะเงียบๆเรามั่นใจเลยว่าที่นี่เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดเลยก็ว่าได้
3.เกาะยาว เป็นเกาะที่มีอาหารทะเลสดๆให้กินตลอดเวลา แน่ใจได้ไงว่าสด ? เพราะที่นี่จะมีชาวประมงออกทะเลไปหาปลา กุ้ง หมึก มาขายที่เกาะตลอดเวลา ก็จะมีการซื้อขายกันตอนเช้าตลอด และถ้าช่วงที่อากาศเป็นใจถ้าเราอยากออกไปหากุ้งหาหมึกกับชาวประมงเราก็สามารถไปได้เหมือนกัน เรียกได้ว่าหาเองทำกินเองกันเลยทีเดียว ใครชอบอะไรแบบนี้เราแนะนำเลย
4.เกาะยาว เป็นเกาะที่เที่ยวได้ทั้งปีตามที่เราบอกไปข้างต้น แต่การมาเที่ยวช่วงหน้าฝนเราแนะนำแค่อย่างเดียวว่าให้เช็คพยากรณ์อากาศมาก่อนว่าฝนตกไหม ถ้าช่วงที่จะมาฝนไม่ตกก็ลุยเลย ถึงที่นี่ลมและคลื่นจะไม่แรงแต่ถ้าฝนตกก็เที่ยวไม่สนุกอยู่ดี
เกริ่นกันยาวมากกก ไปดูกันดีกว่าว่าทริปนี้เราไปทำอะไรกันบ้าง
สำหรับทริปนี้เราเดินทางไปภูเก็ตเราไปกับ Vietjet บินตรงจากสนามบินสุวรรณภูมิ – สนามบินภูเก็ต ตอนนี้มีโปรอยู่ด้วย ราคาเริ่มต้นแค่ 479 บาท โคตรถูก รีบหาวันว่างแล้วเช็คราคาได้ที่ https://www.vietjetair.com/Sites/Web/th-TH/Home
และนอกจากบินไปภูเก็ตแล้ว Vietjet ยังมีบินไปเส้นทางในประเทศ เช่น เชียงใหม่ เชียงราย กระบี่ ใครมีแพลนไปที่ไหนก็ไปจองกันได้เลย
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม. เราก็มาถึงสนามบินภูเก็ต
ทริปนี้เรามา 3 วัน 2 คืน การมาเที่ยวเกาะยาวจะมาเที่ยวเองหรือจะซื้อแพ็คเกจก็ได้เหมือนกัน แต่สำหรับเราทริปนี้เราเลือกแบบแพ็คเกจซึ่งเป็นแพ็คเกจที่คนในชุมชนจัดกันเอง เป็นการจัดทริปแบบ Private เราสามารถเลือกเองได้หมดว่าในระยะเวลา 3 วัน 2 คืน เราจะไปเที่ยวไหนบ้าง กินอะไรบ้าง ทำกิจกรรมอะไรบ้าง พักที่ไหน เราสามารถบอกได้หมดแล้วเขาจะทำการจัดทริปให้ออกมาตรงกับความต้องการของคุณมากที่สุด เหตุผลที่เลือกแบบนี้เพราะเราว่ามันง่ายและค่าใช้จ่ายถูกมากเพราะเป็นธุรกิจที่ชาวบ้านทำกันเอง ไม่ได้หวังทำกำไรมากมายและที่สำคัญสุดๆคือเราสามารถเลือกเองได้ทุกอย่าง มาเที่ยวเองกับมาแบบนี้เราว่าค่าใช้จ่ายไม่ได้ต่างกันเลย แต่แบบนี้สะดวกกว่าเยอะมากเราแนะนำเลย ทริปที่เราไปมาราคาเพียงคนละ 3,900 บาท/คน
สามารถเข้าไปดูแพ็คเกจได้ที่เว็บนี้และนำมาปรับตามความต้องการของเราเองได้เลย : http://www.kohyaohomestay.com/
ช่องทางติดต่อ
LINE : malai21
TEL : 0897235367 ( มาลัย แทนสกุล )
#พิเศษสุดๆสำหรับแฟนเพจเที่ยวก่อนตาย
ทำการจองทริปกับ Kohyao Homestay
ได้รับส่วนลดทันที 10% จากราคาทริปที่จอง
แค่บอกว่ามาจากเพจเที่ยวก่อนตายก็ได้ส่วนลดไปเลย !!!
ซึ่งก่อนเริ่มทริปเราได้จองแพ็คเกจและนัดรถมารับเราไปที่ท่าเรือบางโรงซึ่งเขาจะแนะนำรถให้ซึ่งจะได้ราคาที่ถูกกว่าไปเองพอสมควรเลย สำหรับเรื่องการเดินทางไปเกาะยาวนั้นเราสามารถเดินทางมาได้จากทั้ง 3 จังหวัด ไม่ว่าจะเป็น กระบี่ ภูเก็ต พังงา ก็สามารถเดินทางไปเกาะยาวได้ แต่ถ้าสะดวกสุดก็ต้องเป็นที่ภูเก็ตเพราะระยะทางใกล้ที่สุดและมีเรือออกเยอะกว่า นั่งเรือไม่นานก็มาถึงท่าเรือบางโรงเราก็นั่งเรือต่อไปที่เกาะยาวน้อยซึ่งเป็นที่พักของเราในทริปนี้ สำหรับเรื่องที่พักเราสามารถเลือกได้ว่าอยากพักแบบไหน มีทั้งแบบโฮมสเตย์ บังกะโล รีสอร์ท แล้วแต่เราชอบเลยซึ่งราคาจะแตกต่างกันไป แต่ถ้าอยากได้ความเป็นวิถีชุมจริงๆเราแนะนำแบบโฮมสเตย์เลย
นี่คือที่พักของเราตลอด 3 วัน 2 คืน บนเกาะยาวน้อย
หลังจากเข้าที่พักเก็บของนั่งเล่นได้ไม่นานเราก็ไปกินข้าวเที่ยงกันที่ร้านครัวเกาะยาว ถ้าเรื่องอาหารทะเลร้านนี้เลยสดแน่นอน
มื้อแรกก็จัดเต็มกันแล้วววว มาเที่ยวทะเลมันต้องกินอาหารทะเลถึงจะถูก
หลังจากกินเสร็จเราก็ไปเริ่มเที่ยวกันดีกว่า แต่ก่อนไปเที่ยวเราขอพูดถึงเรื่องการเดินทางกันก่อน การเดินทางบนเกาะยาวมีสองแบบ คือ การเหมารถสองแถว ถ้ามาหลายๆคนขับรถไม่เป็นก็ต้องเป็นวิธีนี้ หรือถ้ามาคนเดียวหรือสองคนหรืออย่างขับรถเที่ยวกันเป็นกลุ่มก็จะมีรถมอเตอร์ไซค์ให้เช่าขับในเกาะ ซึ่งถนนที่นี่ชิลมากขับสบายๆ สำหรับทริปนี้เราเลือกที่จะเหมารถสองแถว ไปดูกันดีกว่าว่าที่แรกที่เราไปเที่ยวคือที่ไหน
และนี่ก็คือที่แรกที่เราจะเที่ยวกันที่นี่คือทุ่งนาบนเกาะยาว ถึงแม้ช่วงที่เรามาจะไม่มีการทำนาแต่ด้วยความที่เป็นหน้าฝนก็จะมีหญ้าเขียวๆขึ้นมาเต็มไปหมดแล้วก็ยังมีฝูงควายมากินหญ้าอีกหลายสิบตัว ไม่คิดว่าบนเกาะจะมีอะไรแบบนี้ด้วยยิ่งถ้ามาช่วงที่เขาทำนากันที่นี่คงจะสวยขึ้นอีกหลายเท่า
หลังจากถ่ายรูปกันแล้วเราก็มีตัวเลือกว่าจะไปที่อื่นต่อหรือกลับที่พักเลย แต่เนื่องจากวันนี้เราเดินทางกันตั้งแต่เช้า ช่วงบ่ายเลยอยากพักผ่อนชิลๆเราเลยกลับที่พักกันก่อน พักผ่อนกันได้สักพักช่วงเย็นเราเลยเดินไปด้านหน้าที่พักซึ่งข้ามถนนไปนิดเดียวเราก็จะจอกับหาดและทะเลของที่นี่ เราออกไปถ่ายรูปกันนิดหน่อยแล้วก็กลับมากินข้าวโดยเจ้าของเป็นคนทำให้เรากินเองเลย แน่นอนว่าต้องเป็นอาหารทะเล 5555
มื้อเย็นของเราวันนี้จัดเต็มไม่แพ้มื้อเที่ยงเลย 5555
กินมื้อเย็นเสร็จก็นั่งเล่นคุยกับเจ้าของบ้านสักพักเมื่อฟ้าเริ่มมืดก็เริ่มอยากกินของหวาน จำได้ว่าข้างๆที่พักมีคาเฟ่สวยๆน่านั่งมากเราก็ไม่พลาดต้องไปลอง นั่นคือร้าน Cafe’ Kantary ซึ่งร้านนี้ตั้งอยู่ใกล้ที่พักเราเลย ร้านสวย ของหวานมีให้เลือกเยอะ รสชาติโอเค ราคาก็จะแรงนิดนึง ถ้าใครสายคาเฟ่ต้องไปลองดู
หลังจากกินเสร็จก็ได้เวลากลับที่พักไปพักผ่อน เพราะพรุ่งนี้เราต้องไปเที่ยวเกาะกันแล้ววว
เรารีบตื่นมาเตรียมตัวเที่ยวเกาะแล้วรอไม่นานก็มีเรือมารับที่หาดหน้าที่พัก ไม่ต้องเดินไปไหนไกล 5555 วันนี้เราจะไปเที่ยวฝั่งกระบี่กันเราจะไปทั้งหมดดังนี้ เกาะเหลาลาดิง เกาะผักเบี้ย หาดบิเละ ซึ่งนั่งเรือไปใกล้มากและเราไปกับทัวร์ของชาวบ้าน จุดเด่นจะอยู่ตรงที่เราเลือกได้หมดว่าจะแวะที่ไหนนานที่ไหนจะแวะแป่ปเดียวทุกอย่างตามใจเราเลย
สิ่งที่เราชอบที่สุดก็คือการที่เรามาเที่ยวหน้าฝนทำให้คนน้อยมากกก ตอนเรามาที่หาดบิเละอยากจะบอกว่ามันเหมือนเกาะส่วนตัวมากๆ มีแค่พวกเราเท่านั้นที่อยู่บนเกาะ Private สุดๆ ถึงแม้ว่าน้ำทะเลจะไม่ใสเท่าช่วงไฮซีซั่น แต่แลกกับการที่ได้เที่ยวตอนคนน้อยๆบอกเลยว่ากุยอม 55555 ไปดูดีกว่าว่า หาดบิเละ จะน่าเที่ยวขนาดไหน
จบไปแล้วสำหรับ หาดบิเละ เราก็ได้เวลาไปที่อื่นกันต่อซึ่งจุดต่อไปก็คือ เกาะเหลาลาดิง
เกาะเหลาลาดิง ถือว่าเป็นสวรรค์เล็กๆของทะเลกระบี่ไม่ว่าจะเป็นหาดทรายที่ขาวและนำทะเลที่ยังคงใสอยู่ถึงแม้ว่าจะเป็นหน้าฝน ยิ่งมาเที่ยวช่วงนี้คนน้อยทำให้ที่นี่สวยขึ้นไปอีกขั้น
และที่ต่อไปเราจะไปกันที่ เกาะผักเบี้ย
เกาะผักเบี้ย สีน้ำทะเลจะแตกต่างจากสองเกาะแรกทีเราไปมา น้ำทะเลที่นี่จะสีออกเขียวมรกตแต่ยังคงความใสไว้เหมือนเดิม เราชอบที่นี่เวลาที่น้ำลดจะมีสันทรายเป็นแนวยาวไปจนถึงอีกเกาะหนึ่ง อารมณ์จะคล้ายๆทะเลแหวกแบบเล็กๆ 555 แต่ตอนที่เราไปน่าเสียดายเพราะน้ำขึ้นสูงไปหน่อยเลยไม่เห็นสันทรายที่เราตามหา
หลังจากถ่ายรูปกันจนพอใจดูนาฬิกาอีกทีก็ใกล้เที่ยงแล้ว จริงๆจะเที่ยวต่อก็ได้แต่เราเลือกที่จะกลับเกาะยาวเลย เดินทางกลับไม่นานก็ถึงที่พักแล้วเราก็ออกไปกินมื้อเที่ยงที่ ร้านครัวเกาะยาว
แน่นอนว่าเราจัดเต็มกับอาหารทุกมื้อตลอด 3 วัน 2 คืน 5555
กินกันจนอิ่มแล้วเราก็จะไปอีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจมาก นั่นคือ กระชังเลี้ยงล็อบสเตอร์
กระชังเลี้ยงล็อบสเตอร์ เกิดมาก็ไม่เคยเห็นขั้นตอนการเลี้ยงล็อบเตอร์มาก่อนจนได้มาที่นี่ 5555 เราจะได้เห็นว่าเขาเลี้ยงกันยังไง รับมาจากไหน เลี้ยงยากไหม เขาสามารถบอกเราได้หมด ไหนๆก็มาถึงเกาะยาวแล้วก็ต้องมาที่นี่ด้วย
เราใช้เวลากับจุดนี้ไม่ค่อยนานเราก็ต้องกลับเพราะมีอีกกิจกรรมที่อยากทำมานานมากก นั่นก็คือ การออกไปตกหมึก เราออกจากเกาะยาวช่วงเย็นเดินทางไปที่แถวหมู่เกาะบิเละ การตกปลาหมึก ปลาหมึกที่ได้จะเป็นหมึกหอม มันจะอยู่ใกล้กับตลิ่ง หรือใกล้โขดหินรอบๆเกาะ เราก็จะขว้างเบ็ดหรือเหยื่อปลอมคล้ายๆกับกุ้ง ไปริมโขดหิน แล้วหมุนรอกดึงสายเบ็ดกลับมา เหยื่อปลอมจะเหมือนกับกุ้งหรือปลากำลังว่ายน้ำ เมื่อปลาหมึกเห็นก็คิดว่าเป็นปลาก็จะไล่แล้วเอาหนวดจับ เราใช้เวลากับการตกหมึกไปพอสมควรบอกเลยว่าหมึกตัวใหญ่มากกกและก็แล้วแต่เราว่าจะทำกินบนเรือหรือว่ากลับไปทำกินที่เกาะ ใครไม่เคยทำบอกเลยว่าต้องลองดูแล้วจะติดใจ และนอกจากกิจกรรมตกหมึกยังมีกิจกรรมจับกุ้งด้วยแต่เนื่องจากเวลาเราไม่พอเลยไม่ได้ทำและในเกาะยาวน้อยยังมีกิจกรรมแบบนี้อีกเยอะมากถ้าเราอยากทำตอนที่จะจองแพ็คเกจก็บอกไปได้เลย
พอกลับมาถึงเกาะก่อนจะกลับที่พักเราก็ไปกินโรตีที่ร้าน “ร้านโรตีชาวเกาะ” เราสั่งกันแบบจัดเต็มมาก รสชาติอร่อยใช้ได้เลย ราคาไม่แพงด้วย ใครมาเกาะยาวน้อยต้องมากิน
กินโรตีกันเสร็จแล้วเราก็กลับที่พักและพักผ่อน พรุ่งนี้เป็นวันกลับแล้วแต่เราก็ยังไปเที่ยวเกาะกันต่อ จะไปเกาะไหนเดี่ยวมาดูกัน
เราตื่นเช้ามาก็รีบอาบน้ำเก็บของช่วงสายๆเราก็ออกจากที่พักไปกินข้าวเช้าและเดินทางต่อไปที่ท่าเรือ วันนี้เราจะเทียวด้วยกัน 3 ที่ ไปดูที่แรกกันก่อนดีกว่านั่งเรือไปแป่ปเดียวก็ถึงที่นั่นก็คือ แหลมหาด
แหลมหาด ตั้งอยู่ที่เกาะยาวใหญ่ซึ่งเราต้องนั่งเรือข้ามมาแล้วนั่งรถเข้าไปที่แหลมหาด เหตุผลที่ชื่อว่าแหลมหาดเพราะจุดตรงนี้เป็นหาดทรายหลมๆทอดยาวออกไปในทะเลซึ่งถ้ามองจากมุมบนจะเห็นเลยว่าเป็นแหลมโผล่มาจริงๆ และที่นี่ยังเป็นสถานที่สำหรับถ่ายทำหนังเรื่อง The Mechanic Resurrection บอกตรงๆว่าชอบที่นี่มากกก หาดทรายขาวแบบสุดๆ แล้วบวกกับท้องฟ้าสวยๆกับน้ำทะเลสีฟ้ามันจะเข้ากันแบบลงตัวมากๆ อีกอย่างที่เราชอบที่นี่ก็คือคนโคตรน้อย มีแค่พวกเราที่ไปกันไม่มีคนอื่นเลยไม่มีอะไรจะส่วนตัวขนาดนี้แล้ว 55555 ถ้ามาเกาะยาวแล้วไม่ได้มาที่นี่บอกได้คำเดียวว่าโคตรพลาด
หลังจากที่เราถ่ายรูปกันจนหัวร้อนเพราะอากาศประเทศไทยเราก็ได้เวลาเดินต่อไปอีก 2 สถานที่สุดท้าย นั่นก็คือ เกาะไข่ใน เกาะไข่นอก เรานั่งเรือจากเกาะยาวใหญ่ไปที่เกาะไข่นอก สำหรับที่นี่เราเคยมาแล้วแต่ครั้งก่อนบอกเลยว่าไม่ประทับใจ น้ำใสจริงแต่คนเยอะมากก เยอะจนถ่ายรูปยังไงก็มีแต่หัวคน แต่ข้อดีของการมากับทัวร์ชาวบ้านแบบเราตอนนี้ก็คือเขาจะรู้ว่าทัวร์ลงช่วงไหน ช่วงไหนเกาะคนน้อย เราเลยไปกันช่วงคนน้อยๆทำให้เราได้เห็นความสวยงามของเกาะไข่นอกที่ไม่คิดว่าจะสวยขนาดนี้ และที่โคตรพีคของการมากับทัวร์ชาวบ้านคือเราได้ไปจุดชมวิวลับๆที่น้อยคนมากๆที่จะเคยไป บอกเลยว่าสวยสัส เดี่ยวไปดูกันว่าเกาะไข่นอกที่เราไปมาจะน่าเที่ยวขนาดไหน
นี่แหละมุมลับๆที่เราบอก ถ้าไม่มากับทัวร์แบบเราไม่ได้มามุมนี้แน่นอนโคตรสวยยย
วันนี้อากาศดีน้ำใสใช้ได้เลยแล้วก็คนน้อยกว่าครั้งที่แล้วมากๆๆๆ ไม่เคยคิดว่าจะสวยขนาดนี้ 555 หลังจากเที่ยวทีเกาะไข่นอกเสร็จแล้วเราก็ไปจุดต่อไปที่สวยไม่แพ้กันนั่นก็คือ เกาะไข่ใน
แต่ระหว่างทางไปเกาะไข่ในคนขับเรือได้พาเราไปที่ เกาะไข่นุ้ย ตรงจุดนี้บอกเลยว่าน้ำใสและปลาเยอะมากก จริงๆตรงจุดนี้เรามารถลงไปดำน้ำได้แต่เราไม่ค่อยอยากลงเท่าไหร่ แต่แค่อยู่บนเรือก็ฟินแล้ว ไปดูภาพกัน
นั่งเรือไปอีกแป่ปก็ถึง เกาะไข่ใน ซึ่งเป็นจุดสุดท้ายที่เราจะเที่ยวกันในทริปนี้ แน่นอนว่าเราเลือกมาช่วงที่นักท่องเที่ยวออกจากเกาะไปแล้ว ตอนเราไปถึงก็เลยมีคนอยู่น้อยมาก เรากินข้าวเที่ยงกันที่เกาะนี้ กินเสร็จแล้วก็ไปเดินถ่ายรูปกัน
สำหรับจุดเด่นของที่นี่เราว่าคือหินซึ่งเป็นหินที่กลมกลืนเข้ากับทะเลมากๆ เหมาะที่จะให้เราปีนป่ายขึ้นไปถ่ายรูปมากก และความดีงามอีกอย่างก็คือน้ำทะเลใสๆของที่นี่ ยิ่งเป็นตอนแดดแรงๆ ต่อให้เป็นช่วงหน้าฝนน้ำก็ยังคงใสอยู่ ไม่ว่าจะช่วงไหนก็มาเที่ยวได้ ไปดูกันดีกว่าว่าที่นี่มีอะไรบ้าง
เชื่อหรือยังว่าน้ำใสจริงๆ
และแล้วก็ถึงเวลาที่เราต้องกลับ ก่อนเรากลับนักท่องเที่ยวก็เริ่มมากันที่เกาะซึ่งแน่นอนว่าอีกไม่นานคนต้องเต็มเกาะแน่นอน 5555 หลังจากถ่ายเสร็จเราก็ไปรอเรือมารับเพื่อที่เราพาเราไปที่ท่าเรือภูเก็ต และเราก็มีรถมารับไปสนามบินโดยเจ้าของโฮมสเตย์เป็นคนติดต่อไว้ให้พาเราไปส่งที่สนามบินภูเก็ตและเราก็กลับกรุงเทพ ถือว่าเป็นการจบทริปอย่างเป็นทางการ
สำหรับการเที่ยวทะเลช่วงหน้าฝนหรือช่วงโลว์ซีซั่น หลายๆที่อาจจะเที่ยวไม่ได้เพราะคลื่นลมแรงแต่สำหรับเกาะยาวอย่างที่เราพูดไปว่าเที่ยวได้ตลอดทั้งปีไม่ว่าจะมาช่วงไหนก็เที่ยวได้ และที่สำคัญเกาะยาวเป็นเกาะที่ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆของ 3 จังหวัด เรียกได้ว่ามา 1 ได้ถึง 3 เลยทีเดียว 555
ขอย้ำอีกครั้งสำหรับการมาเที่ยวเกาะยาวจะมาเที่ยวเองหรือจะซื้อแพ็คเกจก็ได้เหมือนกัน แต่สำหรับเราทริปนี้เราเลือกแบบแพ็คเกจซึ่งเป็นแพ็คเกจที่คนในชุมชนจัดกันเอง เป็นการจัดทริปแบบ Private เราสามารถเลือกเองได้หมดว่าในระยะเวลา 3 วัน 2 คืน เราจะไปเที่ยวไหนบ้าง กินอะไรบ้าง ทำกิจกรรมอะไรบ้าง พักที่ไหน เราสามารถบอกได้หมดแล้วเขาจะทำการจัดทริปให้ออกมาตรงกับความต้องการของคุณมากที่สุด เหตุผลที่เลือกแบบนี้เพราะเราว่ามันง่ายและค่าใช้จ่ายถูกมากเพราะเป็นธุรกิจที่ชาวบ้านทำกันเอง ไม่ได้หวังทำกำไรอะไรมากมายและที่สำคัญสุดๆคือเราสามารถเลือกเองได้ทุกอย่าง มาเที่ยวเองกับมาแบบนี้เราว่าค่าใช้จ่ายไม่ได้ต่างกันเลย แต่แบบนี้สะดวกกว่าเยอะมากเราแนะนำเลย ทริปที่เราไปมาราคาเพียงคนละ 3,900 บาท/คน
เข้าไปดูแพ็คเกจได้ที่เว็บนี้และนำมาปรับตามความต้องการของเราเองได้เลย : http://www.kohyaohomestay.com/
ช่องทางติดต่อ
LINE : malai21
TEL : 0897235367 ( มาลัย แทนสกุล )
#พิเศษสุดๆสำหรับแฟนเพจเที่ยวก่อนตาย
ทำการจองทริปกับ Kohyao Homestay
ได้รับส่วนลดทันที 10% จากราคาทริปที่จอง
แค่บอกว่ามาจากเพจเที่ยวก่อนตายก็ได้ส่วนลดไปเลย !!!
ติดตามรีวิวใหม่ๆของเราได้ที่นี่เลย : เที่ยวก่อนตาย Bucket list TH