เที่ยวน่าน 3 วัน 2 คืน – ไปให้ธรรมชาติโอบกอดตัวเรา

ถ้าพูดถึงจังหวัดที่มาแรงแซงทางโค้งในด้านการท่องเที่ยว  “น่าน” ต้องเป็นหนึ่งในนั้น ผมมั่นใจเลยว่าเดือนสองเดือนที่ผ่านมา ทุกคนต้องเคยเห็นรีวิวน่านโผล่เข้ามาหน้าฟีดแน่ๆ 5555

ช่วงปลายฝนจนถึงหน้าหนาว คนส่วนใหญ่จะนิยมไปเที่ยวภาคเหนือกันและแน่นอนจังหวัดยอดนิยมหนีไม้พ้น “เชียงใหม่” ไอสัสปีที่แล้วนี่ไปเที่ยวเช็คอินกันจนกุคิดว่าเป็นเมืองหลวงแห่งที่สองของไทย 55555 แต่สำหรับรีวิวนี้เราอยากจะนำเสนออีกหนึ่งเมืองที่น่าสนใจไม่แพ้เชียงใหม่ ยิ่งในเรื่องของธรรมชาติจากที่ผมไปมามั่นใจเลยว่าไม่แพ้เชียงใหม่แน่นอน นั่นก็คือจังหวัดน่านครับ

จริงๆกุก็ไม่เข้าใจนะว่าทำไมเขียนรีวิวมันต้องเกริ่นด้วย 55555 มันเป็นส่วนที่คิดโคตรนานเลย เรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า มาดูกันก่อนดีกว่าว่ารีวิวนี้เราจะพาไปที่ไหนในจังหวัดน่านกันบ้าง

1.ล่องแก่งลำน้ำว้า ครึ่งวัน

2.บ้านสะจุกสะเกี้ยง

3.โรงเรียนชาวนา

4.กาแฟบ้านไทลื้อ

5.วังศิลาแลง

6.วัดศรีมงคล(วัดบ้านก๋ง)

7.จุดชมวิวดิยภูคา

8.วิวข้างทางและอื่นๆ (นับด้วยหรอ 5555) ถ้ามันสวยก็นับหมดอ่ะ 55

 

มาเริ่มกันเลยดีกว่า เราเริ่มต้นเดินทางจากกรุงเทพ โดยการเดินทางไปน่านในครั้งนี้เราเลือกเดินทางด้วยรถทัวร์ของนครชัยแอร์ ที่ นครชัยแอร์ ศูนย์วิภาวดี จริงๆก็อยากนั่งเครื่องบินนะ ไม่เสียเวลาด้วย แต่เพราะเหตุผลหลายอย่าง วันเวลาเดินทางยังไม่แน่นอน มาแน่นอนก็ตอนก่อนไปแล้ว พอวันใกล้ๆค่าตั๋วแม่งแพงสัส เลยตัดสินใจไปรถทัวร์นี่แหละ 5555

ก่อนไปก็นั่งดูรถทัวร์หลายเจ้า แต่ก็มาสะดุดตากับนครชัยแอร์ Gold+ ข้อมูลนี่แบบบอกว่าสบายมาก แต่ก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมาก แต่วันที่ไปนี่ทำกุช็อคมากตอนเห็น 555 เห้ยย มันเหี้ยหรอว่ะ…. ป่าวว แม่งโคตรดีๆๆๆ  ไอสัสสส รถทัวร์มันสบายขนาดนี้เลยหรอวะ
-มีหน้าจอส่วนตัว
-มีหนังให้ดู หนังใหม่ด้วยนะเว้ยย
-มีเกมให้เล่น
-มีเพลงให้ฟัง 
-มีเก้าอี้นวด
-มีบอกตำแหน่งรถด้วยว่าอยู่ไหนแล้ว
-ที่นั่งกว้างมาก ปรับเอนได้เยอะสัสๆ นอนสบายอ่ะ
-ห้องน้ำสบายมากไม่มีกลิ่นด้วย
-ใครไม่มีหูฟังก็มีแจกนะ ดูหนังสบายเลย

หลักๆก็ประมาณนี้แหละ คือดีงามกว่ารถทัวร์เมื่อก่อนมากกก นั่งไปน่านราคา 544 บาทเอง ถูกมากกก
เป็นรถของนครชัยแอร์ ถ้าตั๋วเครื่องไม่มีโปร มารถทัวร์เลยแนะนำ 5555

ประมาณ 8 ชม. โดยประมาณเราก็เดินทางถึง บขส.น่าน ยอมรับเลยว่าการนั่งรถทัวร์ครั้งนี้เป็นการนั่งที่สบายที่สุด 5555

เมื่อมาถึง บขส.น่าน ก่อนหน้านี้เราได้จองรถเช่าให้มาส่งรถที่ บขส. จริงๆเลือกจองรถเก๋งเพราะไปกัน 4 คน แต่ความโชคดีได้เกิดขึ้นกับเรา รถเช่ามีปัญหานิดหน่อย เจ้าของร้านเลยเอารถส่วนตัวเป็นรถ ฟอร์จูนเนอร์ มาให้เช่าแทนโดยไม่เพิ่มราคา 555 นั่งสบายเลย

ได้รถกันแล้วก็ได้เวลาออกเดินทางแล้ว จุดหมายแรกที่เราจะไปคือ ล่องแก่งลำน้ำว้า ตั้งอยู่ที่อุทยานแห่งชาติแม่จริม

เราใช้บริการล่องแก่งกับผ่องใสทัวร์ เป็นการเหมาเรือเลยทั้งลำ 3,000 บาท นั่งได้ 6 – 7 คน ราคานี้เพราะเป็นแพคเกจแบบครึ่งวัน แต่ที่นี่ยังมีแพ็คเกจแบบอื่นๆด้วยนะ ใครอยากลุยแบบจัดหนัก เช่น 2 วัน 1 คืน ถ้าสนใจโทรสอบถามได้ที่ 089-5578227

มาพูดถึงเรื่องความสนุกของที่นี่กันดีกว่า บอกเลยว่า…. ไม่สนุกเลยสัสส 5555 แต่เดี่ยวก่อนน การมาล่องแก่งมันก็แล้วแต่สภาพน้ำด้วย บางวันก็เชี่ยว บางวันน้ำเยอะ บางวันน้ำน้อย แต่ของเราที่ไปนี่ไม่ค่อยเสียวเลย 5555 น้ำมันเยอะพอไปถึงแก่งที่เป็นจุดที่ควรจะหวาดเสีย จึงเฉยๆ 5555 ถ้ามีโอกาสอยากกลับไปแก้มือนะ แต่อยากจะกลับไปเล่นแบบ 2 วัน 1 คืน มากกว่า แต่ถ้าใครไม่มีเวลาแต่อยากเล่นแบบครึ่งวัน สนใจกิจกรรมล่องแก่งที่นี่ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ ช่วงที่เราไปเป็นฤดูฝนน้ำเยอะ น้ำแดงและไม่ค่อยเสียว ถ้าให้แนะนำช่วงพีคๆก็ควรมาช่วงฤดูหนาวที่สำคัญช่วงนั้นน้ำใสด้วย สำหรับการเดินทางดูในกูเกิลแมพเลยจ้า ไม่หลงแน่ๆ แต่สัญญาณมันจะน้อยหน่อยๆ

หลังจากล่องแก่งกันเสร็จก็ได้เวลาสำหรับจุดต่อไป ซึ่งเป็นที่พักในวันนี้ “บ้านสะจุกสะเกี้ยง” ที่เลือกมาพักที่นี่เพราะเห็นรีวิวใน facebook นี่แหละ แม่งน่าไปมากกก ครั้งนี้ได้ไปน่านเลยต้องไปให้ได้ ถึงต้องขับรถแบบโคตรนานก็เถอะ 555

ก่อนจะไปดูในส่วนของบ้านสะจุกสะเกี้ยงกัน มาดูวิวข้างทางกันก่อนดีกว่า บอกเลยว่าเด็ดมาก แทบจะจอดตลาดทาง 555

ระหว่างทางที่ขับไปนี่บอกเลยว่าเขียวตลอดทางจริงๆ 5555 ใช้เวลาเดินทางไปทั้งหมดเกือบ 4 ชม. นานมากกก อยากรู้ว่าทำไมนานตามอ่านมาเรื่อยๆครับ 555

โครงการสถานีพัฒนาเกษตรที่สูงตามพระราชดำริ บ้านสะจุก – สะเกี้ยง ตั้งอยู่ในพื้นที่ดอยขุนน่าน ตำบลขุนน่าน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน อีกนิดเดียวจะไปโผล่ลาวแล้ว 555

คนที่กำลังตามหาความสงบ ตามหาธรรมชาติ ที่นี่ถือว่าเหมาะมาก มาพักที่นี่คุณจะได้นอนกลางไร่ชา มองไปด้านหน้าบ้านพักจะเห็นไรชาและวิวภูเขา ส่วนกลางคืนที่นี่ดาวเต็มฟ้ามากกกก ใครชอบถ่ายดาวนี่ฟินมากก ถึงไม่ชอบถ่ายแต่ได้นั่งดูดาวท่ามกลางธรรมชาตินี่ก็สุดยอดแล้ว

อลังการดาวล้านดวงมากกก สำหรับบ้านสะจุกสะเกี้ยง 555

รายละเอียดที่พัก

ที่พักจะมีสองแบบ

1.บ้านหลังเล็กตรงไร่ชา จะเป็นบ้านปูน 1 หลัง (มีห้องน้ำในตัว มีเครื่องทำน้ำอุ่น) และบ้านไม้ 3 หลัง (ห้องน้ำแยก)
2.บ้านปูนหลังใหญ่ ไม่ได้อยู่ตรงไร่ชา (มีห้องน้ำในตัว)
*มีไฟฟ้าใช้ปกติ
**สำหรับค่าที่พักก็แล้วแต่เราจะให้ครับ เป็นค่าบำรุงที่พัก

อาหาร : ปกติที่นั่นจะมีแม่ครัวคอยให้บริการอาหารก็สั่งได้เลย แต่วันที่ผมไปซวยมาก แม่ครัวพึ่งจะลาออกไป เลยต้องสั่งซื้อของชาวบ้านให้นำขึ้นมาให้ แต่ถ้าอยากทำเองซื้อของสดขึ้นไปทำก็ได้ มีอุปกรณ์ เครื่องปรุงพร้อม ส่วนข้าวเค้ามีให้ครับ น้ำก็มีให้ครับ (ก่อนไปก็สอบถามรายละเอียดก่อนนะครับ)

ข้อควรรู้

จริงๆแล้วสำหรับ โครงการสถานีพัฒนาเกษตรที่สูงตามพระราชดำริ บ้านสะจุก – สะเกี้ยง ไม่ได้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการ ไม่ค่อยมีสิ่งอำนวยความสะดวก และก็การเดินทางมาที่นี่ก็ค่อนข้างยากพอสมควร ตอนผมไปกำลังมีการสร้างถนนกันอยู่ ถ้าสร้างเสร็จแล้วน่าจะเดินทางง่ายขึ้น การเดินทางขึ้นไปทางชันมาก และมีบางจุดที่ถนนชำรุด ต้องใช้ความระมัดระวังแบบคูณสิบ ส่วนรถที่เอาขึ้นไปควรเป็นรถ 4WD ถ้าเป็นอย่างอื่นไม่แนะนำ ( มอเตอร์ไซค์จริงๆก็ขับขึ้นได้นะ แต่ถ้าไม่ชินกับการขับบนเขาคิดว่าไม่ควรนะ ) แต่อย่าเสียใจไป ถ้าใครไม่สะดวกไม่อยากเอารถขึ้นไปเอง ที่นี่มีบริการรถรับส่งพร้อมนำเที่ยวของเจ้าหน้าที่ เดี่ยวผมจะให้เบอร์ติดต่อไว้ด้านล่างครับ

นี่แหละเหตุผลที่เดินทางนาน 555 ทางแม่งโหดใช้ได้เลย

ต้องบอกก่อนว่าที่นี่ไม่ได้มีแค่ที่พักนอนกลางไร่ชานะ เดี่ยวจะพาไปดูวิสวยๆของที่นี่กัน

จบไปละสำหรับบ้านสะจุกสะเกี้ยง ถึงทางไปจะลำบาก แต่เทียบกับสิ่งที่ได้รับนี่ไม่เสียแรงเลยที่มา 555 ใครสนใจติดต่อตามเบอร์ด้านล่างได้เลย

ติดต่อ : เหมารถขึ้นสะจุกสะเกี้ยง คุณสุนทร : 0801307423 (ราคา 1,500 บาท รับ-ส่ง พาเที่ยวในสะจุกสะเกี้ยง)
โครงการพัฒนาเกษตรที่สูงบ้านสะจุก – สะเกี้ยง : 084 818 1008

หลังจากกลับจากบ้านสะจุกสะเกี้ยงจุดหมายต่อไปของเราบอกได้เลยว่า โคตรพ่อโคตรแม่พีคคคคคค แต่ก่อนจะไปกันมาดูวิวสวยๆระหว่างทางกันก่อนดีก่า บอกไว้ก่อนว่าจุดต่อไปที่เราจะไปอยู่ใน อ.ปัว

จุดนี้คือ ดอยภูคา บอกก่อนเลยว่าที่นี่ไม่ได้อยู่ในแผน คือขับรถผ่านและเจอหมอกแล้วหันไปเห็น “อุทยานแห่งชาติดอยภูคา” เลยจอดรถลงไปดูกันหน่อย ถือว่าคิดถูกมากที่จอดลงมาถ่าย ถึงแม้ว่าหมอกจะมีนิดเดียว แต่วิวด้านล่างนี่สวยใช้ได้เลย ถ้ามาเช้าๆมั่นใจได้เลยว่าเห็นทะเลหมอกแน่ๆ

ไปต่อกันเลยดีกว่า

และแล้วเราก็มาถึงที่พักของเราสำหรับคืนนี้แล้ว อย่างที่บอกไปว่าโคตรพ่อโคตรแม่พีค มาดูกันว่ามันพีคยังไง

“โรงเรียนชาวนา” ต.ศิลาเพชร อ.ปัว จ.น่าน “ถ้ายังไม่ไป ห้ามตายเด็ดขาด”

ปกติไปเที่ยวเนี่ย จะไม่ค่อยชอบอยู่ที่พักนานๆ ชอบที่จะออกไปเที่ยวมากกว่า ที่พักเอาไว้นอนก็พอแล้ว 555 แต่สำหรับ “โรงเรียนชาวนา” ไม่ใช่แบบนั้น เมื่อมาถึง “เรือนรจนา” บ้านหลังที่เราจะพักในคืนนี้ มาถึงก็เปิดหน้าต่างทั้งสองบานออก ก็เจอกับวิวทุ่งนาล้อมรอบห้อง วินาทีนั้นคือกุได้โดนธรรมชาติสะกดจิตไปแล้ว 5555

ทำให้ความคิดที่ว่าอยู่ที่พักแป่ปเดียวนี่หายไปจากหัว อยากจะอยู่ต่ออีกสองสามเดือนอ่ะ แค่นั้นยังไม่พอ ที่นี่มีอ่างอาบน้ำที่มีหน้าต่างมองเห็นวิววทุ่งนาตอนแช่ด้วย 555 

ราคาที่พักก็ไม่แพงเลย บ้านหลังที่ผมพักเรือนรจนา ราคาคืนละ 1200 บาท ถ้ามากันสองคนก็คนละ 600 บาท ฟรีอาหารเช้าด้วย ถ้าจะดีและถูกขนาดนี้ย้ายบ้านไปอยู่ที่นั่นเลยได้ไหม

เชื่อเถอะ ใครไปก็หลงรัก “โรงเรียนชาวนา”

ห้องพักและราคา

สำหรับฟาร์มสเตย์โรงเรียนชาวนา จะมีห้องพัก 4 แบบ
1.กระโจมหิ่งห้อย ราคาคืนละ 600 บาท
2.บ้านดูดาว ราคาคืนละ 1200 บาท
3.บ้านไม้ไทยลื้อ ราคาคืนละ 2000 บาท
4.เรือนรจนา ราคาคืนละ 1200 บาท
จะมีที่พักหนึ่งแบบต่อหนึ่งหลังเท่านั้น ( ผมพักเรือนรจนา )
ฟรีอาหารเช้า อาหารเย็นทางที่พักไม่มีบริการ แต่สามารถโทรสั่งร้านอาหารได้
รายละเอียดห้องพักสอบถามเพิ่มเติมที่เพจทีพักได้เลยครับ

หลังบ้านพักก็มีวิวทุ่งนาให้เราได้นั่งซึบซับธรรมชาติ

มื้อเย็นแบบนี้อย่ากินที่โต๊ะปกติเลย มากินหลังบ้านพร้อมชมทุ่งนาและแสงอาทิตย์ดีกว่า 555

ถ่ายไปประมาณสามล้านรูป ถ่ายเท่าไหร่ก็ไม่พอ 555 ล้อเล้นๆ

คืนนี้ทีจริงอยากจะถ่ายดาว มั่นใจเลยว่าดาวเต็มฟ้าไม่แพ้สะจุกสะเกี้ยงแน่ๆ แต่ว่าความเหี้ยคือไอสัสส ฝนตก อุตส่าตั้งนาฬิกาตื่นมาตี 3 แม่งยังไม่หยุดตกเลย ตนนั้นทำใจละ นอนแม่งเลย 55555 ขอพักผ่อนให้เต็มที่หน่อย 555

เช้ามามือเช้าที่นี่เป็นข้าวต้มอร่อยใช้ได้เลย จริงๆอยากจะอยู่ต่ออีกเป็นเดือนเลย แต่อยู่ได้แค่วันเดียว 555 และต้องไปที่อื่นต่อก่อนกลับ มาดูกันเราไปไหนกันต่อ

ที่แรก “กาแฟบ้านไทลื้อ” อ.ปัว จ.น่าน

การมาเที่ยวน่านในครั้งนี้ ทุกสถานที่ที่เราไปล้วนแต่มีสีเขียว ทุ่งนาและภูเขา ไม่เว้นแม้กระทั้งร้านกาแฟ 5555 “กาแฟบ้านไทลื้อ” เป็นสถานที่แรกๆที่เราเอามาใส่ตอนจัดทริป ด้วยความชิลของที่นี่ จิบกาแฟพร้อมชมวิวทุ่งนาและภูเขาไปด้วย เป็นความรู้สึกที่ฟินสัสๆ 55

ก่อนหน้านี้ก็นอนกลางนาไปแล้ว กินกาแฟก็ต้องกินกลางนาเช่นกัน 55555 สำหรับค่าเครื่องดื่มก็ราคาไม่แพง 40 – 60 บาท (จำไม่ค่อยได้ประมาณนี้แหละ) แต่สิ่งที่คุณจะได้รับไม่ใช่แค่เครื่องดื่ม แต่เป็นวิวทุ่งนาและภูเขาความงามระดับล้าน 5555 สำหรับใครที่ชอบถ่ายรูปบอกเลยว่าเหมาะมาก สั่งเครื่องดื่มแก้วเดียวได้รูปร้อยรูป 555

อยากรู้ว่าสวยขนาดไหนตามไปดูรูปกันได้เลย 555

มาดูจุดที่สองกันเลยดีกว่า “วังศิลาแลง” สถานที่ลับๆในจังหวัดน่าน ตั้งอยูู่ที่ อ.ปัว จ.น่าน

“วังศิลาแลง” มีอีกชื่อคือ “แกรนด์แคนยอนเมืองปัว” ความสวยงามของที่นี่คือชั้นหินที่ซ้อนทับกันสวยงาม ในหน้าร้อนที่นี่สามารถลงไปถ่ายรูปหรือเล่นน้ำได้ ในช่วงหน้าร้อนนี่น้ำใสมาก แต่ที่เราไปเป็นช่วงหน้าฝนเนื่องจากมีฝนตกน้ำที่ไหลผ่านช่องหินก็จะไหลแรงมาก ไม่สามารถลงไปถ่ายรูปใกล้ๆได้ ก็ถ่ายได้เท่าที่เอารูปมาให้ดูกันนี่แหละ 5555 แต่ถึงน้ำจะไหลแรงก็ยังคงมีมุมสวยๆของธรรมชาติให้เราได้สัมผัส ไปดูภาพกันเลยดีกว่า

และแล้วเราก็ต้องออกจาก อ.ปัว เดินทางต่อไปยังสนามบินน่าน แต่ก่อนกลับก็ขอเข้าไปไหว้พระกันก่อน ถึงจะบอกว่าวัดหลายคนอาจจะไม่อยากเข้าเพราะนอกจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้กราบไหว้บูชาคงไม่มีอะไร แต่วัดที่เราไปในครั้งนี้คือ วัดศรีมงคล (วัดบ้านก๋ง) ถึงแม้จะเป็นวัดแต่ก็ยังมีธรรมชาติให้เราได้สัมผัส ไปดูภาพกันเลยดีกว่าแล้วผมมั่นใจเลยว่าคุณต้องอยากเข้าวัดแน่นอน 555

หลังจากนี้เราก็เดินทางต่อไปยังสนามบินน่านและเดินทางกลับ ถือเป็นการจบทริปน่าน เป็นการซึบซับธรรมชาติและสีเขียวของทุ่งนาและภูเขาอย่างเต็มที่ จบทริปนี้ไปสดชื่นมากกก จริงๆน่านยังมีที่เที่ยวอีกเยอะเลยที่ยังไม่ได้ไป สัญญาเลยว่าครั้งหน้าต้องกลับมาอีกแน่นอน 5555 ใครที่สนใจอยากตามรอยทริปนี้หรืออยากไปน่านหวังว่าข้อมูลของเราจะช่วยได้ไม่มาก็น้อยน่ะ 555 ไว้เจอกันใหม่ทริปหน้าครับ 555

ติดตามรีวิวใหม่ๆได้ที่ เที่ยวก่อนตาย Buckets List TH