7 สถานที่ห้ามพลาดในนนทบุรี วันเดียวก็เที่ยวได้

ว่างวันเดียวไปเที่ยวไหนดี ? นี่เป็นหนึ่งในคำถามที่เราได้ยินบ่อยมากก แน่นอนว่าคนทำงานแบบเราวันว่างมันมีไม่เยอะหรอกว่างวันเดียวนี่ก็เก่งแล้ว 5555 แต่วันว่างแบบนี้จะให้นอนอยู่บ้านเฉยๆมันก็น่าเบื่อแย่ การชวนคนที่เรารักไม่ว่าจะเป็น เพื่อน แฟน หรือครอบครัว ออกไปเที่ยวนอกบ้านก็เป็นความคิดที่ดี อย่างน้อยก็ได้ออกไปสูดอากาศไปถ่ายรูปเล่นกันบ้าง

แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่างแค่วันเดียวมันจะไปไหนได้ ไปต่างจังหวัดก็ต้องไปเช้าเย็นกลับค้างคืนก็ไม่ได้กลับมาบ้านนี่คือเหนื่อยแน่ๆ แต่ถ้าถามเรานะว่าว่างวันเดียวไปไหนดี คำตอบในหัวเรามีเยอะเลยไม่เหนื่อยด้วย ไม่ว่าจะเป็นที่กินอร่อยๆหรือที่ถ่ายรูปสวยๆ ขับรถไปไม่ไกลด้วยว่างวันเดียวเที่ยวได้เยอะเลย

ซึ่งที่เราจะไปกันวันนี้ก็คือ “นนทบุรี” สำหรับที่นี่เราได้ไปมาสามครั้งละ ที่นี่มีทั้งแหล่งของกินอร่อยๆที่ถ่ายรูปสวยๆคือมาครั้งเดียวได้ครบทั้งกินทั้งเที่ยว ซึ่งวันนี้เราจะพาไปดู 7 สถานที่ต้องห้ามพลาดในนนทบุรี ซึ่งเราไปคัดมาจากหลายๆที่เราว่า 7 สถานที่นี่แหละดีที่สุดละ 

และหนึ่งในสถานที่ที่เราไปมาต้องบอกเลยว่าได้ทั้งเที่ยวได้ทั้งความรู้ในที่เดียวกัน และยังเหมาะกับคนทุกเพศทุกวัยอีกด้วย ที่นั่นก็คือ “ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. สำนักงานกลาง” หรือ EGAT Learning Center,Headquarters ต้องบอกเลยว่าที่นี่ทำขึ้นมาได้น่าสนใจมาก มีกิจกรรมจัดแสดงทั้งหมด 7 โซน แต่ละกิจกรรมก็จะได้ทั้งความสนุกและความรู้เรื่องพลังงานและไฟฟ้าควบคู่กันไปถ้าพาเด็กๆไปด้วยนะกรี๊ดแตกแน่นอนเพราะที่นี่ทำให้เรื่องความรู้กลายเป็นเรื่องสนุกที่ไม่น่าเบื่อได้ เราเล่ากันคร่าวๆก่อน 5555 เดี่ยวไปอ่านรายละเอียดกันเต็มๆในรีวิวดีกว่า

ไปดูกันดีกว่าว่า 7 สถานที่ต้องห้ามพลาดในนนทบุรีมีที่ไหนกันบ้าง 

1.เกาะเกร็ด

เราว่าชื่อนี้คุ้นหูใครหลายๆคนแน่นอนเพราะถือเป็นสถานที่ยอดนิยมในนนทบุรีเลยก็ว่าได้ แต่ปกติคนจะมาเที่ยวที่นี่ช่วงวันหยุด เสาร์-อาทิตย์ เพราะจะมีชาวบ้านเอาของกินอร่อยๆมาขาย บอกเลยว่าอร่อยมากกก โดยเฉพาะคนที่ชอบอาหารโบราณหรือขนมไทยห้ามพลาดเด็ดขาดเพราะที่นี่มีให้เลือกกินเยอะมากจริงๆ 5555

แต่ครั้งนี้เราว่างวันปกติก็เลยลองมาสัมผัสเกาะเกร็ดในมุมที่เงียบๆดูว่าที่นี่เป็นยังไงบ้างในวันธรรมดาที่ไม่มีนักท่องเที่ยว หลังจากมาแล้วเรารู้สึกว่าชอบเกาะเกร็ดวันปกติมากกว่าวันหยุดอีกนะ เพราะช่วงวันหยุดข้อเสียคือคนมาเที่ยวกันเยอะมากกก เลยดูอึดอัดไปหน่อย แต่สำหรับคนชอบถ่ายรูปถ้ามาวันธรรมดาสนุกแน่นอนเพราะคนน้อยมากกก เช่าจักรยานปั่นเล่นรอบเกาะชิลๆเลยอยากถ่ายรูปตรงไหนก็แวะถ่ายได้เลย

นอกจากของกินแล้วที่นี่ก็มีของดีคือเครื่องปั้นดินเผานี่แหละ

เป็นเกาะเกร็ดในมุมที่แตกต่างออกไปที่เราไม่เคยคิดมาก่อนว่ามันจะชิลขนาดนี้ ใครที่ว่างวันธรรมดาก็ลองมาดูนะ

2.วัดเล่งเน่ยยี่ 2 (วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์)

สำหรับคนไทยก็คงจะคุ้นเคยกับวัดไทยกันพอสมควรแล้ว แต่แน่นอนว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่หลากหลายทางวัฒนธรรมทำให้เราได้เห็นสถานที่ทางศาสนาของหลายๆศาสนาและหลายๆนิกาย วัดเล่งเน่ยยี่ 2 ก็เป็นหนึ่งในนั้น ที่นี่ก็ถือเป็นอีกหนึ่งวัดดังที่คนนิยมมากราบไหว้ขอพรและแก้ปีชง มานนทบุรีทั้งทีห้ามพลาดที่นี่เด็ดขาด

 นอกจากมากราบไหว้ขอพรและแก้ปีชงกันแล้วจุดเด่นของที่นี่ก็คือวัดสวยมากกก ใครชอบถ่ายรูปห้ามพลาดเด็ดขาดดด

หลังจากถ่ายรูปและทำบุญกันที่ วัดเล่งเน่ยยี่ 2 กันเสร็จแล้วเราก็ไปต่อกันที่ “ท่าน้ำนนท์” ซึ่งมีจุดห้ามพลาดอยู่ที่นี่สี่จุดด้วยกัน

3.ศาลากลางจังหวัดนนทบุรี (หลังเก่า)

ส่วนตัวเราเป็นคนที่ชอบอะไรเก่าๆ คลาสสิคๆ อยู่แล้วเมื่อมาเจอกับ “ศาลากลางจังหวัดนนทบุรีหลังเก่า” เลยทำให้เราชอบที่นี่มากเป็นพิเศษ ที่นี่ก็ตามชื่อเลยครับแต่ความเก่าของที่นี่น่าหลงไหลจริงๆ มีมุมถ่ายรูปให้เราถ่ายเยอะมากกก คนมาท่าน้ำนนท์ส่วนใหญ่ก็จะมาหาอะไรกินแต่อาจจะไม่รู้ว่ามีสถานที่ถ่ายรูปสวยๆแบบนี้ซ่อนอยู่ด้วย

ยิ่งมาช่วงเย็นประมาณห้าโมงแสงสีส้มสาดเข้าสู่ตัวอาคารไม้หลังเก่าทำให้ที่นี่สวยขึ้นมากกกก

ที่นี่ค่อนข้างใหญ่และมีมุมถ่ายรูปหลายมุมเราก็เลือกถ่ายกันเองเลย แต่ระวังเรื่องความปลอดภัยด้วยนะ ชั้นบนเราไม่แน่ใจว่าไม้มันโอเคหรือเปล่า ถ้าจะขึ้นไปถ่ายชั้นบนก็ควรถามเจ้าหน้าที่แถวนั้นถึงความปลอดภัยก่อนว่าขึ้นไปได้หรือเปล่า และสำหรับใครที่มานนนทบุรีนี่ก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่ห้ามพลาด

4.นนท์เบเกอรี่ 

ร้านนี้ทำให้เรารู้จักคำว่าถูกและดีมีอยู่จริง 5555 ไอเชี่ยยย คือเค้กและขนมต่างๆที่นี่ราคาโคตรถูก เริ่มต้นแค่สิบบาทและความถูกนี้ไม่ได้ทำให้คุณภาพไม่ดีนะ คือที่เราซื้อมากินมีสี่อย่างคือชอบหมดเลยแต่ว่าช็อคบอลมันต้องแช่ตู้เย็นก่อนถึงจะอร่อยแต่เรากินเลยก็ติดคอไปนิดนึง 5555 แต่รสชาติคืออร่อยจริง และยังมีให้เลือกเยอะมากกก เราก็รีวิวไม่ได้ว่าอะไรอร่อยอะไรไม่อร่อย แต่เราซื้อมาสี่อย่างเราชอบหมดเลย

ใครมาเที่ยวนนทบุรีอยากซื้อของหวานติดไม้ติดมือกลับบ้านเราแนะนำที่นี่เลย

5.แม่จ๋าจั๊บญวน

มาถึงคิวของคาวกันบ้างแล้ว ร้านของคาวมีกันหลายร้านนะแต่เรามาลองร้านนี้ดูเพราะอยากกินล้วนๆไม่มีเหตุผลอื่น 5555 ซึ่งเมนูร้านนี้หลักๆเลยก็จะมีสองเมนูแนะนำคือ ก๋วยจั๊บญวนพิเศษไข่และยำหมูยอ

มาทั้งที่ก็สั่งทั้งสองเมนูเลย สำหรับร้านนี้ส่วนตัวเราเฉยๆกับยำหมูยอนะคือหมูยออร่อยนะแต่ยำรสชาติไม่ได้ว้าวแต่ถือว่ากำลังดีเลยเหมือนยำปกติ แต่ความอร่อยจริงๆอยู่ที่ก๋วยจั๊บญวนพิเศษไข่นี่แหละอร่อยจริงๆทั้งเส้นและน้ำเข้ากันแบบลงตัวสุดๆและยังมีกระดูกหมูด้วยกินง่ายมากไม่ติดกระดูกเลยบวกกับหมูยอของร้านที่อร่อยอยู่แล้วทำให้ถ้วยนี้ออกมาลงตัวสุดๆ ใครชอบกินก๋วยจั๊บญวนหรืออยากลองเราแนะนำเลย

6.ปังปัง 85 องศา

มาถึงร้านขนมปังร้านดังของท่าน้ำนนท์ ปังปัง 85 องศา ร้านนี้คือขายดีมากกก คนมุงหน้าร้านตลอดเลย และแน่นอนคนเยอะขนาดนี้รสชาติก็ต้องอร่อยอยู่แล้วและนอกจากความอร่อยจุดเด่นของร้านก็คือมีรสให้เลือกโคตรเยอะ ถึงแม้ว่ามันจะหมดเร็วก็เถอะ ถ้ามาช่วงเย็นแบบเราตัวเลือกจะน้อยแล้ว 5555 เรากินไส้หมูหยองน้ำพริกเผา ซื้อมาก็กินเลยคือร้านกำลังดีอร่อยมากก กินตอนร้อนๆนี่แหละอร่อยที่สุดแล้ว ถ้าเก็บไว้นานๆแล้วค่อยกินเราว่าความอร่อยก็น่าจะลดลงแหละ แนะนำว่าซื้อแล้วรีบกินอร่อยแน่นอน

7.ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. สำนักงานกลาง หรือ EGAT Learning Center,Headquarters

มาถึงจุดสุดท้ายกันแล้วที่นี่คือ ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. สำนักงานกลาง จริงๆเราจะมาที่นี่ช่วงเช้านะแต่พอดีวันนี้ที่นี่มีงานเทศกาลดนตรี “Music at the Museum” ในงานจะมีการจัดแสดงดนตรีสดและมี food truck มาขายอาหารกันหลายร้านเลย เรียกว่างานเดียวได้ทั้งฟังเพลงเพราะๆและกินอาหารอร่อยๆไปพร้อมๆกัน 5555 และสำหรับการตกแต่งภายนอกด้วยแสงไฟหลากหลายสีทำให้ที่นี่สวยมากและที่ชอบสุดๆเลยก็คือการแสดงน้ำพุเต้นระบำซึ่งสีของน้ำพุจะเปลี่ยนไปมาหลายสีถ่ายกันสนุกเลย 555 แต่ในส่วนนี้เดี่ยวเราไปดูกันในช่วงหลังดีกว่า

เพราะเราขอพาทุกคนไปดูภายในศูนย์การเรียนรู้ กฟผ.กันก่อน ซึ่งกิจกรรมจัดแสดงทั้งหมด 7 โซน แต่ละโซนก็จะได้ทั้งความสนุกและความรู้เรื่องพลังงานและไฟฟ้าควบคู่กันไปถ้าพาเด็กๆไปด้วยนะกรี๊ดแตกแน่นอนเพราะที่นี่ทำให้เรื่องความรู้กลายเป็นเรื่องสนุกที่ไม่น่าเบื่อได้ ขนาดเราโตแล้วยังชอบและไม่รู้สึกเบื่อเลยไปดูกันดีกว่าว่าแต่ละโซนมีอะไรน่าสนใจบ้าง

โซนที่ 1 : จุดประกาย
เป็นจุดลงทะเบียนและรับสายรัดข้อมืออัจฉริยะ RFID เพื่อนำไปเล่นกิจกรรมต่างๆในโซนอื่นๆ และยังสามารถเลือก AVATAR ของเราเป็นตัวละครในการเข้าไปเล่นกิจกรรมต่างๆ แน่นอนว่ากิจกรรมแบบนี้เด็กๆชอบมากก

โซนที่ 2 : จากแสงแรกสู่แสงนิรันดร์ 
โซนนี้เราจะได้ดูอนิเมชั่นสั้นๆเกี่ยวกับพลังงานในโลกของเราซึ่งนำเสนอออกมาได้น่าสนใจมากถ้าตั้งใจดูจะเข้าใจเลยว่าพลังงานสำคัญกับเราขนาดไหนและทำไมเราถึงควรประหยัดพลังงานและอีกอย่างที่เราชอบนอกจากเนื้อเรื่องก็คือพื้นของห้องนี้นี่แหละ 55555 เพราะจะมีแสงไฟสลับสีไปมาทำให้เราถ่ายรูปได้มุมมองแปลกๆไปอีกแบบ 5555

ในห้องนี้ไม่ได้เปิดอนิเมชั่นให้เราดูในจอปกตินะแต่เปิดให้ดูในทุกๆทิศทางเลยทีเดียวแสงสีจัดเต็มมากก 5555

โซนที่ 3 : คืนสู่สมดุล
สำหรับโซนนี้เราจะได้สัมผัสถึงความสมดุลระหว่าง มนุษย์ ธรรมชาติ และเทคโนโลยี ในห้องนี้มีความรู้ให้เราได้อ่านและมีทั้งกิจกรรมให้เราได้ลองสร้างพลังงานขึ้นมาแบบง่ายๆ นี่แหละที่เราบอกว่าที่นี่จัดกิจกรรมได้ไม่น่าเบื่อเพราะเราไม่ใช่แค่อ่านแต่ได้ลองเข้าไปสัมผัสและเข้าใจมันจริงๆ

โซนที่ 4 : สายน้ำแห่งความภูมิใจ 
สำหรับห้องนี้ถึงจะไม่มีกิจกรรมให้ลองเล่นแต่ห้องนี้ก็จัดแสดงให้เราเห็น ภารกิจของ กฟผ. ตั้งแต่ป่าต้นน้ำสู่แม่น้ำเจ้าพระยาให้เราได้เห็นถึงเส้นทางความสุขของคนไทยตั้งแต่ต้นน้ำสู่ปลายน้ำ

โซนที่ 5 : นวัตกรรมเพื่อชีวิต 
นี่เป็นโซนที่เราชอบที่สุดแล้วเพราะโซนนี้พูดถึงเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นแล้วและจะเกิดขึ้นในอนาคตและมีกิจกรรมต่างๆให้เราได้ชมไม่ว่าจะเป็นการชมแบบจำลองสายส่งไฟฟ้าเคเบิ้ลใต้น้ำ ปะการังเทียมจากเถ้าลอยและยังมีเกมให้เราได้ลองเล่นด้วย  ที่เราพูดไปแค่จุดเล็กๆที่มีในโซนนี้เท่านั้น และอีกอย่างห้องนี้แสงสวยมากกถ่ายรูปสวยแน่นอน 5555

โซนที่ 6 : โลกที่ยั่งยืน  
โซนนี้ทำให้เราได้เปิดโลกกว้างได้เห็นทั้งพลังงานไฟฟ้าในไทยและต่างประเทศโดยจะมีลูกโลกให้เราจิ้มเพื่อดูข้อมูลของแต่ละประเทศได้เลยและนอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่นๆให้เล่นหลายอย่างเลย ทำให้โซนนี้มีทั้งความรู้และความสนุกปะปนกันไปไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ก็สามารถสนุกกันได้ทุกคน

โซนที่ 7 : แสงนิรันดร์ 
เป็นโซนที่เราจะประมวลผลการเรียนรู้ที่บันทึกไว้ในสายรัดข้อมือและสามารถสร้างแสงนิรันดร์ได้ด้วย

และก็จบไปแล้วสำหรับทั้ง 7 โซนที่เราได้ไปมา เอาตามตรงก่อนมาคิดว่าจะน่าเบื่อแต่พอได้มาจริงๆตลอดเวลาที่อยู่ในกิจกรรมไม่ได้รู้สึกเบื่อเลยและเราเชื่อว่าคนที่มาที่นี่ก็รู้สึกไม่ต่างจากเราหรอก 5555

แต่เรายังไม่กลับเพราะที่เราบอกไปว่าวันนี้ที่นี่มีงาน “Music at the Museum” ซึ่งมีการแสดงดนตรีสด มี Food Truck มาขายอาหารและมีการแสดงน้ำพุเต้นระบำซึ่งสีของน้ำพุจะเปลี่ยนไปมาหลายสี บรรยากาศในงานคือดีมากอาหารอร่อยเพลงเพราะวันที่เราไปอากาศไม่ร้อนด้วย เอาเป็นว่าเราไปดูบรรยากาศในงานกันดีกว่า

หลังจากหาอะไรกินและฟังเพลงกันจนพอใจก็ได้เวลากลับละ เป็นการจบทริปแบบชิลๆกลับบ้านนอนสบายไม่เหนื่อยเลย 5555 ถ้าใครมีเวลาว่างแค่วันเดียวและกำลังหาที่เที่ยวอยู่ “นนทบุรี” เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่คุณจะไม่ผิดหวังแน่นอน