HIDDEN SPOTS IN BANGKOK : CHAROENKRUNG
วันเดียวเที่ยวเจริญกรุง มุมลับๆสำหรับเปลี่ยนรูปโปรไฟล์
มันก็จะมีบางอารมณ์ที่ อยากออกไปเที่ยว อยากออกไปถ่ายรูป แต่ไม่มีเวลาว่างพอที่จะไปเที่ยวต่างจังหวัด แต่จริงๆไม่ต้องไปต่างจังหวัดก็เที่ยวได้เหมือนกัน เพราะในกรุงเทพก็มีมุมลับๆที่เที่ยวสนุก ถ่ายรูปสวย ยิ่งใครที่กำลังหาสถานที่สวยๆสำหรับถ่ายรูปโปรไฟล์ เราบอกเลยว่าที่ที่เราจะพาไปวันนี่โคตรตอบโจทย์
ซึ่งที่เราจะไปกันวันนี้ก็คือ “เจริญกรุง” สำหรับเราที่นี่คือสถานที่ที่ผสมผสานระหว่างความคลาสสิคและความทันสมัยกันอย่างลงตัว และวันนี้เราจะไปกันทั้งหมด 5 จุดห้ามพลาด และ 1 ร้านที่ต้องไปกิน จะมีอะไรบ้างตามมาดูกันเลย
แต่สำหรับทริปถ่ายรูปแบบนี้แน่นอนว่าต้องมีรูปถ่ายตัวเองด้วยและแน่นอนว่าภาพที่ได้ต้องออกมาดูดีและตั้งเป็นรูปโปรไฟล์ได้ นอกจากเรื่อเสื้อผ้าที่ต้องดูดีแล้ว อีกหนึ่งเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญก็คือเรื่องสีผมนี่แหละ ไม่ว่าจะเป็นผมขาวที่หลายๆคนมีปัญหาหรือว่าจะเป็นสีผมที่หลุดทำให้สีผมไม่เท่ากัน ออกไปถ่ายรูปก็คงขาดดความมั่นใจไม่มากก็น้อย 5555
การที่จะเพิ่มความมั่นใจเรื่องสีผมก่อนไปเที่ยวไม่ใช่เรื่องยากเลย ก่อนออกทริปเราใช้ แชมพูปิดผมขาว Lolane Nature Code ซึ่งขั้้นตอนการใช้งานง่ายมากกกก ไม่ว่าจะทำที่บ้านหรือใช้ตอนออกทริปก็สามารถทำได้ง่ายๆเช่นกัน ก่อนออกทริปเรามาดูวิธีการใช้ Lolane Nature Code กันก่อนดีกว่า
นี่คืออุปกรณ์ของเราทั้งหมด
1.Lolane Nature Code Color Shampoo
2.Pearl Milk
3.Hair Treatment for Color Care
4.ถุงมือ
หลักจากได้อุปกรณ์มาครบแล้วก็มาลงมือกันเลยดีกว่า
ขั้นตอนง่ายๆตามนี้เลย
1.ใส่ถุงมือให้เรียบร้อย
2.บีบซอง LOLANE Nature Code Color Shampoo ผสมลงใน LOLANE Pearl Milk
3.แล้วในขวดจะออกมาหน้าตาแบบในภาพ
4.เขย่าขวดให้เข้ากันแล้วทิ้งไว้ประมาณ 1 นาที
5.ในขวดจะมีสีแบบในภาพ
6.บีบขวดแชมพูลงบนผมขาวหรือส่วนที่สีผมหลุด เน้นไปที่โคนผมและค่อยๆขยี้เบาๆให้แชมพูกระจายไปทั่วหัว และทิ้งไว้ 30 นาที
เมื่อครบ 30 นาที เราล้างออกและหมักผมด้วย Lolane Natura Treatment for Color Care ซึ่งเป็นซองอยู่ในกล่องของ Nature Code Color Shampoo หมักเพียง 2-3 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด และถ้าอยากให้ผมยิ่งมีความนุ่มสุขภาพดีแลยิ่งขึ้น แนะนำให้ใช้ Lolane Nature Code Herbal Shampoo for Dry Hair ซึ่งมีส่วนผสมตามธรรมชาติสำคัญๆ เช่น คอร์น ชูการ์ และข้าวหอมนิล อีกทั้งยังมี 18-MEA คือน้ำมันตามธรรมชาติบนเส้นผมของเรานั่นเอง ซึ่งช่วยปกป้องผมจากมลภาวะและให้ผมมีความยืดหยุ่นแลอ่อนกว่าวัย
จะเห็นได้ชัดว่าสีผมที่หลุดไม่เท่ากันหายไปจนหมดหรือถ้าใครที่มีผมขาวก็จะทำให้สีผมกลับมาสีสวยเป็นธรรมชาติได้เช่นกัน และความพิเศษของแชมพูคือ ข้าวหอมนิล ซึ่งเป็นสารสกัดจากธรรมชาติทำให้สีผมเข้มติดทนนานยิ่งขึ้น และยังมีสารสกัดจากข้าวโพดที่จะทำให้ผมนุ่มยิ่งขึ้นถึงสองเท่า และยังมีส่วนผสมอื่นๆอีก เช่น น้ำผึ้งป่าช่วยให้ผมแข็งแรงไม่เปราะขาด และไข่มุกที่ช่วยให้ผมเงางามมีประกาย บอกได้เลยว่าแชมพูปิดผมขาว Lolane Nature Code Color Shampoo “เป็นผลิตภัณฑ์ที่ปิดผมขาว เปิดผมสวย ด้วยธรรมชาติ” จริงๆ เมื่อผมกลับมาสีสวยไม่ว่าจะถ่ายรูปที่ไหนก็มีความมั่นใจขึ้นมาแล้ว ไปดูกันดีกว่าว่าวันนี้เราไปที่ไหนกันบ้าง
1.ไปรษณีย์กลางบางรัก
หลายๆคนอาจจะเคยเห็นที่นี่กันมาบ้างแล้ว ถือเป็นอีกหนึ่ง Landmark ของเจริญกรุง เป็นจุดที่มีมุมให้ถ่ายรูปสวยๆเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นด้านหน้าที่ทำการไปรษณีย์ ด้านในอาคารและบนดาดฟ้า เราชอบการออกแบบของอาคารมากกก น่าจะเรียกได้ว่าเป็นไปรษณีย์ที่สวยที่สุดในไทยก็ว่าได้ และในอาคารยังมีอะไรที่น่าสนใจอีกอย่าง นั่นก็คือ TCDC หรือศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ ใครที่ชอบออกแบบหรืองานดีไซน์ไม่ควรพลาด แถมที่นี่ยังมีเวิร์คช็อปเจ๋งๆมาจัดแทบจะทุกเดือน เดี่ยวไว้มีโอกาสเราจะมารีวิวแบบเต็มๆ อีกครั้ง 5555
2.อาคารศุลกสถาน
สำหรับที่นี่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดที่เราคิดว่าคนยังไม่ค่อยรู้จักกัน อาคารศุลกสถานสร้างขึ้นประมาณปี พ.ศ. 2433 เป็นสถานที่เรียกเก็บภาษีนำเข้าในสมัยก่อน ซึ่งตอนนี้ถึงจะผ่านมานานมากแต่ที่นี่ยังคงความคลาสสิคไว้ ตอนนั่งหาข้อมูลเราเห็นว่าที่นี่สามารถเข้าไปข้างในได้ด้วย แต่พอไปจริงเขามีสังกะสีมาปิดไว้ น่าจะห้ามเข้าไปด้านใน แต่เราถามยามดูก็ยังถ่ายรูปด้านนอกได้ปกติ แต่ก็แอบเสียดายที่เข้าข้างในไม่ได้ เราอยากให้ที่นี่คงความคลาสสิคไว้แบบนี้เราว่ามันเป็นอะไรที่มีเสน่ห์มากๆ ไปดูภาพกันดีกว่า 5555
ถึงจะเข้าไปด้านในไม่ได้แต่ก็ยังมีมุมสวยๆให้เราได้ถ่ายรูป
ถ้าสังเกตที่สีผมจะเห็นได้เลยว่าสีผมเสมอกันหมดและความรู้สึกคือผมนุ่มมาก ทำสีเสร็จแล้วก็เที่ยวได้เลย
3.The Jam Factory
สำหรับใครที่ชอบเสพงานศิลป์ต้องชอบที่นี่มากแน่ๆ ที่นี่คือโกดังเก่าที่ถูกรีโนเวทใหม่ให้ออกมาเท่และฮิปมากกก ที่นี้มีทั้งร้านหนังสือ คาเฟ่ แกลลอรี่ สำหรับร้านหนังสือบรรยากาศโคตรดีแบบเข้ามาแล้วน่านั่งอ่ะขนาดเราไม่ค่อยอ่านหนังสือยังคิดเลยว่าน่านั่งมากกก ส่วนคาเฟ่ก็จะตั้งอยู่ในร้านหนังสือเลย เรียกว่าซื้อหนังสือแล้วไปนั่งชิลที่คาเฟ่ได้เลย 5555 ส่วนอีกจุดที่จะลืมไม่ได้ก็คือแกลอรี่ของที่นี่ซึ่งแต่ละเดือนก็จะมีนิทรรศการงานศิลป์ต่างๆมาจัดที่นี่ใครที่ชอบงานศิลป์ไม่ควรพลาดดดด
4.Warehouse 30
อีกหนึ่งโกดังฮิปๆที่มาเจริญกรุงแล้วจะไม่พูดถึงไม่ได้ ที่นี่คือ Warehouse 30 เป็นโกดังที่รวบรวมความฮิปไว้ในที่เดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นคาเฟ่หรือร้านขายของดีไซน์เท่ๆ มีให้เลือกซื้อเยอะมากก และด้วยการออกแบบของที่นี่ทำให้ไม่ว่าจะเดินไหนก็เป็นมุมที่ถ่ายรูปได้และอีกอย่างที่เราชอบคือที่นี่จะมีจัดอีเว้นท์ที่น่าสนใจบ่อยมาก ถ้าบ้านเราอยู่แถวเจริญกรุงเราต้องมาที่นี่ทุกวันแน่ๆ 5555 ใครยังไม่เคยไปอยากให้ลองไปดู
5.Street Art
สำหรับเจริญกรุงถือเป็นอีกหนึ่งจุดที่มี Street Art เยอะมาก ที่เราถ่ายมาเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น จุดที่เราถ่ายเป็นกำแพงใกล้ๆ Warehouse 30
6.ประจักษ์เป็ดย่าง
อยากจะบอกว่าเราชอบข้าวหน้าเป็ดมากกกก ไปที่ไหนถ้ามีให้กินก็กินตลอด ครั้งนี้เพื่อนแนะนำมาว่าเจ้านี้อร่อย แน่นอนว่าต้องไปลอง 55555 สำหรับความอร่อยส่วนตัวเราชอบมากนะ ไม่แน่ใจว่าหิวด้วยหรือเปล่า 5555 เนื้อเป็ดเหนียวไม่มากน้ำราดเข้มข้น ราคาธรรมดา 45 บาท และยังมีเมนูอื่นๆให้เลือกอีกเยอะพอสมควรเลย บะหมี่ของที่นี่ก็อร่อยนะ ร้านมีสองชั้นตอนเราไปคนไม่เยอะถือว่าโอเคเลย ต้องไปโดน
สำหรับเจริญกรุงเราว่ายังมีอะไรที่น่าสนใจอีกเยอะมากกก ที่เราไปมาเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ไม่มีเวลาไปเที่ยวต่างจังหวัดไม่ได้หมายความว่าเราจะไปเที่ยวไม่ได้ กรุงเทพยังมีมุมลับๆให้เราออกไปค้นหาอีกเยอะมากกก ไว้มีโอกาสจะมารีวิวที่เที่ยวในกรุงเทพอีก 5555