“ไต้หวัน” ประเทศนี้เป็นทุกอย่างให้มึงแล้ว !!!
นี่ไม่ได้พูดเล่นๆ แต่หลังจากที่ได้ไปเที่ยวประเทศนี้มา 10 วัน 9 คืน ทำให้กุรู้สึกแบบนี้จริง ไต้หวันคือประเทศที่รวมหลายๆอย่างเข้าด้วยกันแบบลงตัวสัสๆ ไม่ว่าจะชอบแดก/ชอบเที่ยวธรรมชาติ/ชอบเที่ยวในเมือง
บอกได้เลยว่า “ไต้หวัน เป็นทุกอย่างให้มึงแล้วจริงๆ”
สำหรับทริปนี้อย่างที่บอกไปว่าเราไปมา 10 วัน 9 คืน ซึ่งเป็นทริปที่นานพอสมควร เลยไม่สามารถเขียนจบในรีวิวเดียว ครั้งนี้เราจึงขอแยกรีวิวเป็นทั้งหมด 3 Ep. ยังไงก็ฝากติดตามกันให้ครบด้วยน่าา 55555
แต่ถ้ากำลังสงสัยอยู่ว่าไปทำบ้าอะไรตั้ง 10 วัน จะขอตอบตรงนี้เลยว่า ไปเที่ยวสิอิสัส !!! 55555 หยอกๆๆๆ ที่ไปนานขนาดนี้เพราะคิดว่าไปเที่ยวทั้งทีก็อยากเที่ยวให้เยอะที่สุด เพราะหลังจากครั้งนี้ถ้าไปต่างประเทศอีกคงจะเลือกไปประเทศที่ไม่เคยไปมาก่อน จึงทำให้ทริปนี้ตกลงกับเพื่อนว่าไปแม่ง 10 วันเลยละกัน ไปทุกที่ที่อยากไปของไต้หวัน ทำให้ทริปนี้เราไปมาเกือบๆครึ่งประเทศเลยก็ว่าได้ 55555
และสำหรับรีวิวนี้คือ Ep.3
- รีวิว Ep.1 ไปอ่านได้ที่นี่ : https://bit.ly/2Hdhy6b
- รีวิว Ep.2 ไปอ่านได้ที่นี่ : https://bit.ly/2qPm4lo
EP.3 YANGMINGSHAN – TAIPEI – HOUTONG CAT VILLAGE
Day 7
วันนี้เราก็ยังนอนที่ไทเปเหมือนเดิมและยังคงนอนยาวๆไปจนถึงวันสุดท้าย และวันนี้เราก็ยังคงไม่ได้เที่ยวในเมืองยังคงโหยหาธรรมชาติเช่นเคย 5555 แต่ที่เราจะไปกันคือไปง่ายมากกก ใกล้ไทเปมากๆด้วย และธรรมชาติของสถานที่ที่เราจะไปนี่บอกได้เลยว่าไม่ธรรมดา เพราะถ้าธรรมดาเราไม่ไป 5555 ซึ่งสถานที่นั่นก็คิอ YANGMINGSHAN
ถ้ามีเวลาว่าง 1 วันที่ไทเป แล้วอยากหาที่เที่ยวธรรมชาติที่ใช้เวลาเดินทางไม่นาน และที่สำคัญต้องสวย เราขอเลือกที่นี่เลย เดินทางง่าย เที่ยวง่าย ที่สำคัญโคตรสวย เอาจริงๆที่หยางหมิงซานเป็นที่เที่ยวที่ครบมากๆ มีทั้ง ทั้งจุดแคมป์ปิ้ง, เส้นทางเดินป่า, ปีนเขา, ชมสัตว์ป่า, น้ำตก, ต้นไม้, ป่าไม้, บ่อน้ำแร่ ที่นี่จะมีจุดให้แวะเที่ยวหลายจุดมาก แต่ที่เราชอบที่สุดในหยางหมิงซานก็คือ Qingtiangang ก็คือสถานที่ในภาพที่เราเอามารีวิวนี่แหละ เราว่าเป็นจุดที่สวยที่สุดของอุทยานเลยก็ว่าได้ ที่นี่เป็นทุ่งหญ้าที่ตั้งอยู่บนเนินเขาที่สวยมากกก ดูตามภาพเลย ใครจะมาแนะนำว่าเผื่อเวลาไว้สำหรับจุดนี้เยอะๆเลย เพราะผมเผื่อเวลาไว้ 1 ชม. แต่มันไม่พอจริงๆ พอเจออะไรสวยๆเวลาก็จะผ่านไปเร็วแบบนี้แหละ 5555
ภาพนี้ถ่ายด้วย Yi 4K Plus ชอบมากตรงที่ถ่ายเป็นไฟล์ Raw ได้ด้วยนี่แหละ เอามาแต่งเพิ่มได้เหมือนกล้องใหญ่เลย ไม่อยากพกกล้องตัวใหญ่ๆเราก็แนะนำตัวนี้แหละ ได้ทั้งภาพนิ่งและวีดีโอ
ใครสนใจเข้าไปสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่เลย >> Yi Thailand Distributor
สำหรับการมาเที่ยวที่นี่คุณไม่จำเป็นต้องรีบออกตั้งแต่เช้านะ ออกมาสายๆก็ได้ชิลๆเพราะเดินทางง่าย ใกล้เมือง ข้อเสียก็คือตอนกลับนี่แหละตอนรถบัสเข้าเมืองรถติดหนักมากกกกกก ยิ่งกลับรอบหลังๆคนจะกลับเยอะ ไม่ได้นั่ง ก็เลยต้องยืนกันยาวๆไป 55555 มาสายๆกลับประมาณบ่่ายสามกำลังดี หลังจากเราฝ่ารถติดไปได้ก็กลับมาที่ไทเป แต่วันนี้เรายังไม่เข้าที่พักเพราะจะไปเดินเล่นกันที่ Ximending
Ximending ถือว่าเป็นหนึ่งในสีสันของไทเปในยามค่ำคืน เป็นทั้งแหล่งช็อปปิ้งที่มีทั้งสินค้าแฟชั่น เครื่องสำอาง ของหวาน ของคาว บอกได้เลยว่าครบมากกกก และที่สำคัญโดยเฉพาะผู้หญิงพวกครีมกันแดดเครื่องสำอางอะไรพวกนี่แม่งถูกกว่าที่ไทยเยอะมากกก ไม่แปลกใจเลยที่มาที่นี่แล้วเจอคนไทยอยู่ในร้านแนวๆนี้ ใครมาก็ต้องมาหิ้วกลับบ้านกันไม่มากก็น้อย ห้ามพลาดเด็ดขาด และที่นี่มีสีสันอีกอย่างนั่นก็คือการแสดงโชว์บนถนน ซึ่งแต่ละวันก็ไม่เหมือนกัน มีเต้น มีมายากล ( มั้งนะ ) เป็นการแสดงที่เอนเตอร์เทนคนดูดีมากก เดินผ่านกี่ครั้งก็คนดูกันเยอะตลอด 55555
เห็นคุณลุงในภาพด้านบนใช่ป่ะ ลงแกขายสตอเบอรี่ราดด้วยน้ำเชื่อม เปรี้ยวหวาน อร่อยมากกกก ถ้าเดินๆแล้วเจออย่าลืมไปชิม
3 ภาพด้านล่างเราถ่ายด้วยกล้อง Yi 4K Plus ซึ่งตอนนั้นกล้องหลักแบตหมดเจ้ากล้องตัวนี้ถึงแม้จะถ่ายตอนกลางคืนก็ได้ภ่าพที่ค่อนข้างโอเคเลย
หลังจากที่เดินเล่นหาอะไรกินกันจนสาแก่ใจแล้ว เราก็ได้เวลากลับห้องเตรียมลุยต่อพรุ่งนี้ สำหรับคนที่อ่านมาคงคิดกันบ้างแล้วว่าใจคอมึงจะไม่เที่ยวในเมืองกันเลยหรอว่ะ 55555 ก็จะบอกว่าเที่ยวครับพรุ่งนี้ 1 วัน 555555 เราไปที่ไหนเดี่ยวมาดูกัน
Day 8
วันนี้ก็เป็นวันที่แปดแล้วใกล้วันกลับเข้าไปทุกที วันนี้เราขอพักธรรมชาติแล้วมาเดินถ่ายรูปเล่นในไทเปกัน และเราจะพาไปดู 2 สถานที่ห้ามพลาดในไทเปซึ่งสองจุดที่เราจะบอกเรายังไม่ค่อยเห็นคนไทยไปกันซึ่งมันสวยและน่าสนใจมากกก จะเป็นที่ไหนเดี่ยวไปดูกัน แต่ก่อนจะไปมาดูภาพที่เราถ่ายในเมืองกันไปก่อน 55555
ที่เราถืออยู่เป็นชานมที่มีขายใน 7-11 อร่อยใช้ได้เลย ต้องลองๆ
มาดูที่แรกกันเลยดีกว่านั่นก็คือ Bo Pi Liao Historical Street สำหรับที่นี่ใครชอบถ่ายรูปห้ามพลาดเด็ดขาด ที่นี่เป็นซากตึกทรงเก่าๆที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้และได้พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว เป็นจุดถ่ายรูปชิคๆใครชอบตึกทรงเก่าต้องชอบที่นี่แน่ๆ
จริงๆเราวางแผนจะไปหลายจุดมากกก แต่ด้วยความที่เวลาไม่ค่อยมีเลยไปได้แค่สองที่ หลังจากถ่ายรูปกันตรงนี้จนเสร็จก็ไปอีกที่ต่อ ซึ่งที่ที่เราไปก็คือ Treasure Hill Artist Village หลายๆคนอาจจะงงว่ามันคือที่ไหน ใช่ครับผมก็งงเหมือนกัน 5555 ไม่ได้แพลนมาก่อนเลยไปดูกันดีกว่าว่าเป็นไง
Treasure Hill Artist Village ตามชื่อเลยนี่คือหมู่บ้านสา
เดินไปตรงไหนในหมู่บ้านก็จะเห็นศิลปินวัยรุ่นกำลังร่วมกันทำงานศิลปะกันแบบนี้
เมื่อฟ้าเริ่มมืดเราจึงต้องกลับที่พักกัน เตรียมตัวลุยต่อพรุ่งนี้คือวันที่เราจะเที่ยวในไทเปเป็นวันสุดท้าย ถ้ามาไทเปอีกครั้งจะกลับมาที่นี่แน่นอน
Day 9
ใครเป็นทาสแมวชูมือหน่อยเร็วววว จะบอกว่าเราก็เป็นทาสเหมือนกัน 5555 และวันนี้เราจะพาไปเที่ยวสวรรค์เล็กๆของคนรักแมวกัน รับประกันความฟินแน่นอน นั่นก็คือ Houtong cat village ซึ่งก็คือหมู่บ้านแมวแห่งไต้หวันนั่นเอง
Houtong cat village เป็นหมู่บ้านเล็กๆกลางหุบเขา บรรยากาศดีมาก ไม่ร้อน ไม่หนาว อากาศกลางๆ คนไทยน่าจะชอบกัน และอีกอย่างคือเดินทางมาเที่ยวง่ายมาก สำหรับหมู่บ้านแมวแห่งนี้มีประชากรแมวไม่ได้มีเยอะแบบเกาะแมวญี่ปุ่นนะ แต่ก็เยอะพอที่จะเดินไปเจอได้ในทุกๆซอยที่เดินผ่าน 55555
มาดูบรรยากาศของหมู่บ้านแห่งนี้กันก่อนดีกว่า
เท่าที่เราไปมาแมวที่นี่เป็นเจ้าบ้านที่ดีมากๆ คุ้นกับคนสุดๆ ( แต่ก็ต้องดูอารมณ์แมวด้วยนะ ถ้ามันมองแรงนี่ห่างๆไว้ก่อนดีกว่า 5555 ) และบรรยากาศโดยรอบของ Houtong cat village การตกแต่งของที่นี่จะเต็มไปด้วยแมว ไม่ว่าจะเป็น ภาพถ่ายแมว หุ่นแมว ภาพวาดแมว คาเฟ่แมว ร้านของฝากแบบแมวๆ บรรยากาศเหมือนหลุดเข้าไปในโลกของแมวจริงๆ คนรักแมวนี่ฟินแน่นอน
แต่อย่าเพิ่งคิดว่าคนที่ไม่อินกับแมวไปเที่ยวแล้วจะไม่ชอบนะ เราค่อนข้างมั่นใจว่าต้องชอบ เพราะถึงไม่มีแมวแต่บรรยากาศของหมู่บ้านที่อยู่กลางหุบเขามันดีมากจริงๆ มุมถ่ายรูปสวยๆเยอะด้วย ถ้าใครไปเที่ยวไต้หวันแล้วอยากหาวันพักผ่อนชิลๆ เดินทางง่ายๆจากไทเป เราแนะนำที่นี่เลย
อีกอย่างที่อยากจะพูดถึง Houtong cat village ก็คือเรื่องการพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ซึ่งถือว่าแมวเป็นผู้กอบกู้หมู่บ้านแห่งนี้ให้กลับมารุ่งเรืองอีกครั้งก็ว่าได้ เพราะก่อนหน้านี้จะบอกว่าที่นี่เป็นหมู่บ้านร้างก็คงไม่ผิด เพราะหมู่บ้านแห่งนี้เมื่อก่อนเป็นสถานที่ทำเหมืองที่เจริญรุ่งเรืองมาก แต่พอเริ่มหมดยุค คนก็ย้ายไปอยู่ในเมืองกันหมด จนที่นี่แทบจะกลายเป็นหมู่บ้านร้าง แต่เมื่อไม่กี่ปีก่อนมีกลุ่มคนเข้ามาเที่ยวและถ่ายรูปแมวของที่นี่ไปรีวิวลงเว็บและโซเชียลมีเดียต่างๆ จนคนเริ่มรู้จักและอยากมาสัมผัสหมู่บ้านแห่งนี้ จนตอนนี้ที่นี่กลับมามีรายได้จากการท่องเที่ยว ที่นี่เราว่าแมวไม่ใช่แค่สัตว์เลี้ยงนะ เหมือนคนกับแมวพึ่งพาอาศัยกันมากกว่า อยากให้ที่ไทยมีสถานที่แบบนี้เหมือนกันนะ เอาปัญหาสัตว์จรจัดในประเทศเรามาทำแบบนี้ได้จะเป็นอะไรที่โคตรดีเลย
3 ภาพด้านล่างเราถ่ายด้วย Yi 4K Plus เข้าไปถ่ายแมวได้ง่ายมากกก เข้าไปใกล้ๆแมวก็ไม่ตกใจเดินหนี สำหรับคนชิลๆจะพกไปกล้องเดียวเลยหรือจะเอาไว้สำรองแบบผมก็ได้ แต่สำหรับการถ่ายวีดีโอผมใช้เป็นตัวหลักเลย ยังไงรอดูวีดีโอของเรากันได้เร็วๆนี้
หลังจากที่เราฟินกับหมู่บ้านแมวกันไปแล้วก็จะไปอีกหนึ่งจุดที่เราตั้งเป้าไว้ในวันนี้ จริงๆรถไฟสาย PingXi มีที่เที่ยวให้เลือกเที่ยวเยอะพอสมควรเลย ใครชอบเที่ยวเยอะๆไปหลายๆที่ก็ลองวางแผนกันดูเลย แต่เราอยากไปแบบชิลๆไม่ต้องรีบ เลยเลือกไปแค่สองที่ละกัน ซึ่งที่ต่อไปที่เราจะไปก็คือ jiufen
Jiufen ถ้าพูดถึงชื่อนี้หลายๆคนคงจะเคยได้ยินกันมาบ้างแล้ว และสิ่งที่ดึงดูดเรามาที่นี่ก็คือโคมไฟสีแดงและอาหาร 555 เพราะที่ Jiufen old street เขาว่ากันว่าของกินอร่อยมากกกก วันนี้ก็เป็นวันที่เที่ยววันสุดท้ายแล้วเลยต้องมาเยือน 555 สำหรับที่นี่บอกเลยว่าคนไทยโคตรเยอะ เป็นที่เที่ยวที่เราเจอคนไทยเยอะที่สุดละ เดินไปไหนก็ได้ยินแต่ภาษาไทย ส่วนของกินก็มีน่ากินหลายอย่างเลย ไม่รู้จะแนะนำอะไร แนะนำให้มาดูเองดีกว่า 55555 แต่ที่เราไม่ชอบเลยก็คือคนโคตรเยอะเลย เยอะเกินไป เยอะแบบต้องเดินเบียดๆกัน ที่บอว่าคนเยอะหมายถึงตรงตลาดนะ แต่ถ้าในซอยทั่วไปเราว่าชิลๆดี และสำหรับโคมไฟสีแดงจริงๆมันควรจะมาช่วงที่พระอาทิตย์ตกดิน เพราะเมื่อโคมไฟส่องแสงที่นี่จะโคตรมีเสน่ห์เลย แต่เราเลือกไม่ได้เพราะไม่ได้ขับรถมาเอง เลยมาได้แค่ช่วงเย๋็น 55555 ไปดูภาพกันดีกว่า
อันนี้อร่อยจริงต้องกินให้ได้ ขนมเปี๊ยะชาเขียว จริงๆมีของน่าอร่อยอีกเยอะ แต่ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปมาเพราะคนโคตรเยอะเลย ไม่มีจังหวะเอากล้องออกมาถ่าย
หลังจากเที่ยวกันจนพอใจละเราก็เดินทางกลับไทเปเข้าที่พักจัดกระเป๋าเพราะพรุ่งนี้เราต้องกลับบ้านกันแล้ว
Day 10
สุดท้ายก็มาวันที่เราต้องกลับ สำหรับไต้หวันถ้าให้เรากลับมาอีกเราก็ยังมานะ ถ้ามาอีกครั้งก็คงจะมาทริปสั้นๆลองเน้นเที่ยวในเมืองให้เยอะๆ เพราะทริปนี้ส่วนใหญ่ไปเที่ยวธรรมชาติหมดเลย จึงไม่ค่อยได้ซึมซับความรู้สึกของการเที่ยวในเมือง เราว่าไต้หวันเป็นประเทศดีทีนะทุกอย่างโอเค ที่เที่ยวในเมือง ธรรมชาติ อาหารรสชาติถูกปากคนไทย ค่าใช้จ่ายก็พอดีๆไม่แพงเกินไป ถือว่าเป็นประเทศที่ใครมาก็ต้องชอบเพราะมันลงตัวไปหมด
การเดินทางกลับไทยเราก็ยังคงบินกับ Nok Scoot เหมือนเดิม บินตรงจาก สนามบินเถาหยวน – สนามบินดอนเมือง ราคาเริ่มต้นแค่ 2,799 บาท โคตรถูกกกกก รีบหาวันว่างแล้วเช็คราคาได้ที่ http://www.nokscoot.com
นั่งๆนอนๆไม่นานเราก็กลับมาถึงประเทศไทย ความรู้สึกแรกที่ได้กลับถึงบ้านก็คือ โคตรร้อนเลยโว้ยยยย 555555 สำหรับรีวิวไต้หวันของเราก็จบลงไปแล้ว ใครอ่านมาถึงตรงนี้ก็ต้องขอบคุณมากๆๆ ชอบอะไรไม่ชอบอะไรก็บอกกันได้น่าาและติดตามรีวิวใหม่ๆของเราได้ที่นี่เลย : เที่ยวก่อนตาย Bucket list TH